ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ(ศบศ.) เตรียถกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่ม ปลดล็อกเงื่อนไข เราเที่ยวด้วยกัน ให้เข้าถึงง่ายกว่าเดิม เพิ่มสิทธิพิเศษมากยิ่งขึ้น
วันนี้ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากโรคโควิด (ศบศ.) ปรากฎว่าในวันที่ 18 พ.ย. นี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุเตรียมเสนอ ศบศ. พอจารณามาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวเพิ่ม เช่นปรับโครงสร้าง เราเที่ยวด้วยกัน อาทิ ลดลำดับขั้นตอน ความยุ่งยากในการใช้งาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการอนุญาตนำแพ็กเกจท่องเที่ยวเข้าสู่ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยเน้นไปที่ 2 กลุ่มคือกลุ่มนักท่องเที่ยวสูงวัย ซึ่งมีทั้งกำลังทรัพย์ และเวลาว่างในวันธรรมดา และการท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ ซึ่งในส่วนหลังนี้จะให้ทางรัฐเป็นผู้สนับสนุนการเดินทางแบบ 3 วัน 2 คืน รวมถึงสนับสนันการเดินทางอีกร้อยละ 40
"เราเที่ยวด้วยกัน" ดันยอดจองห้องพักพุ่งเฉียด 3 แสนสิทธิ
ครม.เคาะเพิ่มวงเงิน "เราเที่ยวด้วยกัน" จาก 600 เป็น 900 มีผลทันที
ส่วนอีกกลุ่มเป็นกลุ่มท่องเที่ยวพรีเมียมเจาะกลุ่มไทยเที่ยวนอก ที่มีศักยภาพทางการเงินดีซึ่งเสนอโดยสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือ TTAA อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจอง และจ่ายค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินเพียงร้อยละ 60 โดยไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวนและนำมาขอส่วนต่างร้อยละ 40 คืนในภายหลังเหมือนปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน จะอนุญาตให้โรงแรมที่อยู่ในฐานข้อมูลภาษีของกรมสรรพากร เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แม้จะไม่ได้จดทะเบียนเข้าระบบโรงแรม รวมทั้งอนุญาตให้สามารถวางจำหน่ายบัตรของขวัญ โรงแรม ที่พัก สปา และร้านอาหาร รวมทั้งการอนุญาตให้ขยายสิทธิคืนพักต่อนักท่องเที่ยว 1 คน จาก 10 คืนเป็น 15 คืน
ด้านนางละเอียด บุ้งสีทอง นายกสมาคมโรงเเรมไทยภาคเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้โรงเเรมสมาชิกใน จ.เชียงใหม่ มีจำนวนห้องทั้งหมด 60,000 ห้อง ยังเปิดให้บริการเพียงเเค่ร้อยละ 50 เนื่องจาก บางเเห่งยังไม่กล้าเปิดบริการเพราะกังวลว่าอาจจะไม่คุ้ม
โดยในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ เเม้จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เเต่ก็มีการเข้าพักเฉพาะสุดสัปดาห์ ซึ่งเห็นว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่รัฐช่วยจ่ายค่าที่พัก เเละ ค่าตั๋วเครื่องบิน รวมทั้งการประกาศวันหยุดยาวเกิดประโยชน์ ทำให้ประชาชนตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวง่ายขึ้น