ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ชาวปาเลสไตน์ จะกลับเข้าไปละหมาดในพื้นที่ของมัสยิดศักดิ์สิทธิ์ฮาราม อัลชารีฟ หรือที่ชาวยิวเรียกว่า เนินพระวิหาร แล้ว ยุติการคว่ำบาตรหลังจากทางการอิสราเอลรื้อถอนเครื่องรักษาความปลอดภัยทั้งหมด บริเวณทางเข้าที่ทำให้เกิดการปะทะกันร่วม 2 สัปดาห์
วันที่ 28 ก.ค. 60 – ชาวมุสลิมในปาเลสไตน์ เริ่มทยอยกลับเข้าไปละหมาดด้านในพื้นที่ของมัสยิดศักดิ์สิทธิ์ฮาราม อัลชารีฟ หรือที่ชาวยิวเรียกว่า เนินพระวิหาร ตั้งแต่หลังเวลา 16.30 น. วานนี้ (27 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 20.30 น. วานนี้ (27 ก.ค.) ตามเวลาไทย ภายหลัง มาห์มุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ แถลงข่าวขอให้ชาวมุสลิมกลับเข้าไปละหมาดในมัสยิด “อัล อักซอ” ดังเดิม หลังจากที่เขาประกาศยุติการติดต่อกับอิสราเอลทั้งหมดตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เนื่องจากอิสราเอลติดตั้งเครื่องตรวจจับโลหะบริเวณทางเข้า เพราะเกิดเหตุคนร้ายสังหารตำรวจเสียชีวิต 2 นาย ใกล้พื้นที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 14 ก.ค.
ก่อนหน้านี้ ตำรวจอิสราเอลแจ้งว่า ได้รื้อถอนเครื่องรักษาความปลอดภัยทั้งหมดแล้ว โดยได้รื้อถอนเครื่องตรวจจับโลหะเมื่อวันอังคาร (25 ก.ค.) ส่วนราวลูกกรงและนั่งร้านติดกล้องที่เพิ่งติดหลังจากนั้น ก็รื้อถอนออกไปเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของมัสยิด “อัล อักซอ” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับ 3 ในศาสนาอิสลาม และโดมทองแห่งเยรูซาเล็ม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของศาสนายิว การติดตั้งเครื่องรักษาความปลอดภัยเหล่านี้ของอิสราเอล ทำให้ชาวปาเลสไตน์มองว่า เป็นการย้ำการครอบครองพื้นที่นี้ จึงได้ประท้วงด้วยการสวดมนต์ด้านนอกและเกิดการปะทะกัน มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้ว 7 ราย