svasdssvasds

อาการ FOSO คืออะไร ? ความบกพร่องแห่งยุคดิจิทัล กลัวตกกระแส วางมือถือไม่ได้

อาการ FOSO คืออะไร ? ความบกพร่องแห่งยุคดิจิทัล กลัวตกกระแส วางมือถือไม่ได้

ทำความรู้จัก อาการ FOSO คืออะไร ? ความบกพร่องแห่งยุคสมัยดิจิทัล กลัวตกกระแส วางมือถือไม่ได้ โดย FOMO คือ อาการกลัวตกกระแส ย่อมาจากคำว่า Fear of Missing Out สื่อถึงอาการที่ไม่อยากพลาดกระแสสำคัญบนโลกออนไลน์ กลัวว่าจะพลาดประเด็นสำคัญ จนทำให้คนเราวางมือถือไม่ได้

SHORT CUT

  •  อาการ  FOSO หรือ  Fear of Missing Out คืออะไร ? มาลองทำความเข้าใจคำนิยามของคำๆนี้ 
  • คนที่มีพฤติกรรมกลัวหรือระแวงว่าตัวเองจะตกข่าว ตกกระแส พลาดบางสิ่งบางอย่างไป หรือแม้แต่กลัวไม่ได้เป็นคนสำคัญ ไม่เป็นที่ยอมรับ จึงมักเช็กข่าวสารบ่อยกว่าปกติ และนั่นส่งผลให้ วางมือถือไม่ได้ ต้องอ่านไลน์ตลอดเวลา 
  •  วิธีเบื้องต้น ในการรับมือ  FOSO คือ การกลั่นกรองเนื้อหา , ทำ  ดิจิทัลดีท็อก (Digital detox)  , มีสมาธิให้มากขึ้น , และ ใช้เวลากับผู้คนในชีวิตจริงให้มากขึ้น 

ทำความรู้จัก อาการ FOSO คืออะไร ? ความบกพร่องแห่งยุคสมัยดิจิทัล กลัวตกกระแส วางมือถือไม่ได้ โดย FOMO คือ อาการกลัวตกกระแส ย่อมาจากคำว่า Fear of Missing Out สื่อถึงอาการที่ไม่อยากพลาดกระแสสำคัญบนโลกออนไลน์ กลัวว่าจะพลาดประเด็นสำคัญ จนทำให้คนเราวางมือถือไม่ได้

โทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ต กลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของคนในยุคสมัยดิจิทัลไปแล้ว หากจะบอกว่า ขาดมือถือเหมือนขาดใจ คำๆนี้อาจจะจริงสำหรับใครบางคนไปแล้ว  อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ให้ดี การไม่มีมือถือ ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่ได้ทำให้ใครตายโดยตรงเลย และดูเหมือนว่าเทรนด์ที่กำลังมาอยู่ในตอนนี้ ของคน เจนฯ Z ด้วย ที่ต่างก็ต้องการ การละวางมือถือไว้ ละทิ้งโลกเสมือนไว้บ้าง...แล้วออกไปใช้ชีวิตจริงๆ มากกว่า 

แต่ในทางกลับกัน , มันก็ยังมีคนอีกบางกลุ่ม ที่อยู่ในภาวะ  "ขาดมือถือไม่ได้" -  "ขาดอินเตอร์เน็ตไม่ได้"   เพราะเพียงแค่ห่างออกจากโลกออนไลน์ไปไม่กี่นาที ก็ดูเหมือนจะเกิดความกังวลกวนใจขั้นรุนแรง จนดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ติดมือถือราวกับติดยาเสพติด ไม่อ่านไลน์ก็ดูเหมือนจะมีอาการลงแดง จะเป็นจะตายให้ได้ 

สำหรับ คนที่มีอาการ ขาดมือถือไม่ได้นั้น จะถูกนิยาม คำจำกัดความว่า “โนโมโฟเบีย” โดยคำว่า “โนโมโฟเบีย” นั้นในนิยามทางการแพทย์นั้นไม่ใช่โรค แต่เป็นกลุ่มอาการ 

 โดยคำว่า “โนโม” เป็นคำที่ใช้เรียกแทนโมบายโฟน ส่วนคำว่า “โฟเบีย” แปลว่ากังวลอย่างมากต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือกังวลมากเกินกว่าเหตุ จึงเรียกรวมกันเป็น “โนโมบายโฟนโฟเบีย” แต่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “โนโมโฟเบีย” มาจากการที่โทรศัพท์มือถือเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ของชีวิตประจำวัน 
 

อาการ FOSO คืออะไร ? ความบกพร่องแห่งยุคสมัยดิจิทัล กลัวตกกระแส วางมือถือไม่ได้

ส่วนคนที่ มีพฤติกรรมกลัวหรือระแวงว่าตัวเองจะตกข่าว ตกกระแส พลาดบางสิ่งบางอย่างไป หรือแม้แต่กลัวไม่ได้เป็นคนสำคัญ ไม่เป็นที่ยอมรับ จึงมักเช็กข่าวสารบ่อยกว่าปกติ  คิดว่าตนเองต้องรู้ก่อนใคร พอเวลาพลาดเรื่องใดไปจะเกิดความเครียดหรือวิตกกังวลโดยที่ไม่รู้ตัว จะถูกเรียกว่า FOMO ซึ่งย่อมาจากคำว่า “Fear of Missing out” 

โดย อาการ FOMO ก็จะมีเช่น , กลายเป็นคนที่ติดมือถือ เป็นคนใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อติดตามอ่านข่าวสารต่างๆ วางมือถือไม่ได้  อ่านไลน์ หรือ แอปอื่นๆทั้งวัน ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางสังคมตลอดเวลา โดยอาการเหล่านี้ ถือเป็นอาการเบื้องต้นที่ส่อว่า เป็น  “Fear of Missing out” แล้ว 

เราลองเช็กตัวเองก็ได้ว่า มีอาการ FOMO ไหม โดยอาการเบื้องต้นคือ  ขาดมือถือขาดใจ , ขาดอินเทอร์เน็ตเมื่อไหร่ ใจร้อนเหมือนไฟเผาใจ , แชทดัง ต้องมีงานเข้าแน่ๆ และมีความกังวลใจ , และ ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะใด เรื่องงานต้องมาก่อนเสมอๆ 

อาการ FOMO กับการใช้โซเชียลมีเดีย มักเป็นของคู่กัน ให้มองว่า มันไม่ใช่เรื่องแปลก หากกำลังรู้สึกไม่ดีกับอาการเหล่านี้ แต่ก็มีวิธีเบื้องต้น ในการรับมือ กับ เรื่องราวเหล่านี้ 

อาการ FOSO คืออะไร ? ความบกพร่องแห่งยุคสมัยดิจิทัล กลัวตกกระแส วางมือถือไม่ได้

• กลั่นกรองเนื้อหา ผู้คนที่จะติดตามบนโซเชียลมีเดีย โดยเลือกติดตามคนที่ให้แนวคิดเชิงบวกมากขึ้น 
• ดิจิทัลดีท็อก (Digital detox)  หรือ โซเชียลดีท็อก โดยการลดการใช้สมาร์ทโฟนหรือการหยุดจากโลกออนไลน์ไปสักพัก
• ทำกิจกรรมที่ช่วยฝึกสมาธิและสติ เช่นนั่งสมาธิ หรืออะไรก็ได้ ที่ทำให้ มีจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นอกจากมือถือ
• ใช้เวลากับผู้คนในชีวิตจริงให้มากขึ้น 

ความจริงแล้ว , โลกออนไลน์ ไม่ใช่ ทุกอย่าง... ไม่มีมัน เราก็ยังไม่ตาย... แต่จุดที่ลงตัวของเรื่องนี้ ควรหจุดที่มันสมดุล บัลลานซ์ การใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ กับ โลกจริงๆ ให้ได้ 

related