svasdssvasds

พบ เพนกวินจักรพรรดิ สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ จากภาพถ่ายดาวเทียม ในแอนตาร์กติกา

พบ เพนกวินจักรพรรดิ  สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ จากภาพถ่ายดาวเทียม ในแอนตาร์กติกา

พบ เพนกวินจักรพรรดิ สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ ถ้าหากสภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น หรือ ปัญหา Climate Change จากภาพถ่ายดาวเทียม ในแอนตาร์กติกา อยู่กันราวๆ 500 ตัว

เพนกวินจักรพรรดิ (Emperor Penguin) เป็นสัตว์อีกหนึ่งชนิด ที่ต้องประสบเคราะห์กรรม และน่าเป็นกังวลถึงขั้นอาจ สูญพันธุ์ ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ทั้งนี้ เมื่อกลางปี 2022 มีรายงานว่า เพนกวินจักรพรรดิใกล้เสี่ยงสูญพันธุ์ในไม่ช้า 

ทั้งหมดนี้ ก็เพราะว่า สภาพแวดล้อมในซีกขั้วโลกใต้มีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้ภูเขาน้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำทะเล จนส่งผลให้ เพนกวินจักรพรรดิ ไร้ถิ่นที่อยู่อาศัย และไม่สามารถสืบพันธุ์ได้ตามธรรมชาติ ซึ่งจำเป็นต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิ -40 องศาเซลเซียส
.
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีข่าวดีเล็กๆ  เมื่อ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์พบอาณาจักรเพนกวินจักรพรรดิแห่งใหม่ในพื้นที่ทางตะวันตกของทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งถือเป็น การค้นพบที่จะทำให้ มนุษย์เรา เข้าใจถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่พวกเพนกวินจักรพรรดิ เผชิญอยู่ได้มากขึ้นด้วย

พบ เพนกวินจักรพรรดิ สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ ถ้าหากสภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น หรือ ปัญหา Climate Change รุนแรงขึ้น โดยพบจากภาพถ่ายดาวเทียม ในแอนตาร์กติกา อยู่กันราวๆ 500 ตัว  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยการค้นพบครั้งนี้ เกิดจากการสำรวจ พื้นที่ทวีปแอนตาร์กติกา เพื่อประเมินถึงอัตราการสูญเสียน้ำแข็งด้วยดาวเทียม Copernicus Sentinel-2 สองดวงของ European Space Agency และสุดท้ายผลพลอยได้ก็คือ  ได้พบฝูงเพนกวินจักรพรรดิ ที่มีขนาดเล็กราว 500 ตัวและเป็นแห่งที่ 66 

เพนกวินจักรพรรดิ (Emperor Penguin) เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่สั่งสมปัญหามานาน เนื่องจาก เพนกวินจักรพรรดิ (Emperor Penguin) ต้องการแผ่นน้ำแข็งอย่างมากโดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน เพื่อให้ลูกนกเพนกวินมีเวลาเติบโต หากแผ่นน้ำแข็งแตกออกหรือลดน้อยลง มีโอกาสที่นกน้อยเหล่านี้ที่ยังไม่รู้จักโลกจะตกน้ำและจมน้ำตาย

พบ เพนกวินจักรพรรดิ สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ ถ้าหากสภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น หรือ ปัญหา Climate Change รุนแรงขึ้น โดยพบจากภาพถ่ายดาวเทียม ในแอนตาร์กติกา อยู่กันราวๆ 500 ตัว

นับตั้งแต่ปี 2016 มีเพนกวินจักรพรรดิหายไปเฉลี่ยปีละ 15,000-24,000 ตัว และ เพนกวินจักรพรรดิ มีตัวเต็มวัยเหลือเพียง 595,000 ตัว ซึ่งข้อมูลที่เพนกวินจักรพรรดิหายไปมากมายขนาดนี้ สอดคล้องกับข้อมูลขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization) ที่ระบุไว้ว่าปริมาณน้ำทะเลในทวีปแอนตาร์กติกาเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากภูเขาน้ำแข็งละลาย รวมถึง ระดับน้ำฝนที่ตกลงมามากผิดปกติ โรงงานอุตสาหกรรมปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมไปถึงการถูกคุกคามจากธุรกิจเรือท่องเที่ยวและประมง ซึ่งทุกปัจจัยล้วนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของพวกมันทั้งสิ้น 

ปีเตอร์ เฟรทเวล (Peter Fretwell) เจ้าหน้าที่ข้อมูลทางภูมิศาตร์ของคณะสำรวจแอนตาร์กติกบริติช ได้ให้ความเห็นไว้ว่า จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ที่แอนตาร์กติกา  มีปริมาณน้ำแข็งในทะเลน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา และปี 2023 นี้ ก็กำลังจะเจอสิ่งที่แย่ยิ่งกว่านั้นอีกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เพราะคาดว่าจะสูญเสียอาณานิคมเพนกวินจักรพรรดิไปอย่างน้อย 80% ก่อนสิ้นศตวรรษนี้

ดังนั้น การร่วมมือแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ จึงเป็นสิ่งที่ต้องร่วมกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน ถึงด่วนที่สุด...ก่อนที่เพื่อนร่วมโลก อย่าง เพนกวินจักรพรรดิ  จะสูญพันธุ์ไป และมันคงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าไม่น้อยเลย

ที่มา foxnews

economictimes

Sky News

related