svasdssvasds

นาซา NASA เผยภาพถ่ายพื้นผิวดาวอังคาร แสดงให้เห็นร่องรอยคล้าย หน้าหมี

นาซา NASA เผยภาพถ่ายพื้นผิวดาวอังคาร แสดงให้เห็นร่องรอยคล้าย หน้าหมี

NASA เปิดเผยภาพถ่ายจากยาน "มาร์ส รีคอนเนสเซนซ์ออร์บิเตอร์ (Mars Reconnaissance Orbiter) แสดงให้เห็นพื้นผิวดาวอังคาร โดยพบมีร่องรอยเป็นลักษณะคล้ายรูปหน้าหมี มีลักษณะเป็นหัวรูปทรงวงกลม

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ นาซา NASA เปิดเผยภาพถ่ายจากยาน "มาร์ส รีคอนเนสเซนซ์ออร์บิเตอร์ (Mars Reconnaissance Orbiter) แสดงให้เห็นพื้นผิวดาวอังคาร  ซึ่ง ดาวอังคาร ดาวเคราะห์ลำดับที่ 4 เป็นดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ของระบบสุริยะ โดยพบมีร่องรอยเป็นลักษณะคล้ายรูปหน้าหมี มีลักษณะเป็นหัวรูปทรงวงกลม ที่คาดว่าเป็นพื้นผิวแตกหัก อาจเกิดจากการตกตะกอนของลาวาหรือโคลน เหนือหลุมอุกกาบาตที่ฝังอยู่

ขณะที่ ด้านในมีส่วนที่เป็นปากปล่องดูคล้ายตา และมีเนินเขาที่ยุบตัวเป็นโครงสร้างพื้นผิวรูปทรงตัว V ที่ดูคล้ายปากและจมูกของหมี โดยภาพนี้ถ่ายไว้ได้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จากกล้องความละเอียดสูง (High Resolution Imaging Experiment) หรือ HiRISE 

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา ที่เรียกว่า "แพริโดเลีย" (Pareidolia) เพราะ สมองของมนุษย์ค้นหาภาพในความทรงจำที่ใกล้เคียงที่สุดมาอธิบายการมองเห็นรูปทรงต่างๆ ที่เราไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรว่ามันคืออะไร ทำให้ สิ่งที่เราเห็นจากดาวอังคารนั้น มีรูป คล้ายหมี 

นาซา NASA เผยแพร่ภาพถ่ายพื้นผิวดาวอังคาร แสดงให้เห็นร่องรอยประหลาดคล้าย "หน้าหมี"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ยานโคจรรอบดาวอังคาร "มาร์ส รีคอนเนสเซนซ์ ออร์บิเตอร์" เข้าสู่วงโคจรรอบดาวอังคาร ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2549 โดยโคจรครบ 1 รอบทุก 112 นาที ที่ระยะความสูงจากระดับพื้นผิวบริเวณขั้วใต้ 255 กิโลเมตร และขั้วเหนือ 320 กิโลเมตร ขณะที่กล้อง HiRISE อันทรงพลังก็ได้ทำการบันทึกภาพรายละเอียดต่างๆ บนพื้นผิวดาวอังคาร โดยสามารถถ่ายออกมาได้ชัดเจน แม้วัตถุหรือพื้นผิวจะมีขนาดรายละเอียดเล็กๆเพียง 1 เมตร. 

สำหรับ ดาวอังคารนั้น แม้นักวิทยาศาสตร์ จะยังค้นหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารไม่พบ แต่ข้อมูลใหม่ ๆ จากการสำรวจทำให้พวกเขาเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่า อย่างน้อยในอดีตหลายพันล้านปีก่อน จะต้องเคยมีจุลินทรีย์อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้แน่ แต่พวกมันอาจมีพฤติกรรมทำลายตัวเองจนต้องสูญพันธุ์ไปในที่สุด 


ภายในช่วงทศวรรษหน้า มนุษย์อาจได้มีโอกาสไปเหยียบดาวอังคารและทำการสำรวจหาร่องรอยสิ่งมีชีวิตโบราณได้ด้วยตัวเอง  ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ว่าสมมติฐานข้างต้นเป็นความจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการพบร่องรอยของมีเทนบนดาวอังคาร ซึ่งเชื่อว่าอาจเกิดมาจากสิ่งมีชีวิตแล้ว

ดร. บอริส ซอเทอรีย์ ผู้นำทีมวิจัยจากสถาบัน IBENS ของฝรั่งเศส กล่าวสรุปว่า “องค์ประกอบต่าง ๆ ที่ให้กำเนิดชีวิต สามารถพบได้ทั่วไปในจักรวาล จึงมีความเป็นไปได้ว่าสิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้นอยู่เสมอในดวงดาวทั้งหลาย แต่หากสิ่งมีชีวิตนั้นไม่สามารถรักษาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตเอาไว้ได้ ก็จะต้องสูญพันธุ์ไปอย่างรวดเร็ว”

ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ มีผู้เสนอให้ดึงคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกกักเก็บไว้ในชั้นน้ำแข็งและใต้พื้นผิวดาวอังคารขึ้นมา เพื่อทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกแบบเดียวกับที่โลกเป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งจะทำให้ดาวอังคารมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ภายหลังผลวิจัยของนาซากลับพบว่า ดาวอังคารมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เพียงพอที่จะใช้เปลี่ยนแปลงสภาพบรรยากาศของมันเอง ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีของมนุษย์ในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจะทำเรื่องดังกล่าวได้

related