svasdssvasds

นโยบายสู้ฝุ่น PM2.5 ของพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดยวราวุธ มีอะไรบ้าง?

นโยบายสู้ฝุ่น PM2.5 ของพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดยวราวุธ มีอะไรบ้าง?

ใกล้เลือกตั้ง 2566 เข้ามาทุกที วราวุธ ศิลปอาชา ผู้ที่เป็นรัฐบาลปัจจุบัน และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคชาติไทยพัฒนา จะมีแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างไร ให้โดนใจประชาชน

Keep The World ชวนส่องนโยบายสู้ฝุ่นของพรรคชาติไทยพัฒนา นำทีมโดย วราวุธ ศิลปอาชา ผู้พ่วงความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาด้วย ไหน ๆ ก็เป็นตัวจี๊ดด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว หากได้เป็นรัฐบาลหน้า เขาผู้นี้จะมีนโยบายอะไรที่มาสร้างแรงแห่งความหวังในการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่วนกลับมาทุกปีให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยบ้าง

ทีมงาน Keep The World ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ในระยะสั้นกับนาย วราวุธ ศิลปอาชา ถึงประเด็นแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในฐานะที่ตนยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ในรัฐบาลและในฐานะตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนาที่กำลังก้าวเช้าสู่สังเวียนเลือกตั้งเร็ว ๆ นี้ นายวราวุธตอบคำถามทีมงานดังนี้

นโยบายสู้ฝุ่น PM2.5 ของพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดยวราวุธ มีอะไรบ้าง? นโยบายสู้ฝุ่นของพรรคชาติไทยพัฒนามีอะไรบ้าง?

เบื้องต้น นายวราวุธกล่าวว่า หากพูดถึงแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ต้องขอแยกเป็น 2 ประเด็น คือ PM2.5 ในเมืองใหญ่ VS เขตพื้นที่ต่างจังหวัด 

ในเขตเมืองใหญ่อย่างในกรุงเทพมหานคร  เหตุหลัก ๆ ของ PM2.5 ในกรุงเทพฯจากท้องถนน ทำไมถึงมั่นใจ เพราะช่วงปี 63-64 ที่มีโควิดแล้วเรามี Quarantine ทำให้ไม่มีรถบนถนนเลย ตอนนั้นเนี่ย อากาศใสปิ๊ง เราถึงมั่นใจว่ามาจากท้องถนน ดังนั้น แนวทางข้อหนึ่งเลย สถานตรวจสภาพรถในแต่ละสถาน นโยบายบายของชาติไทยพัฒนาคือ เราจับได้ว่ารถคันไหน พ่นควันดำออกมา เราจะตามไปจนถึงตรอ.ของท่าน ว่าตรวจสภาพที่ไหน แล้วผมจะปิดท่าน และไม่ใช่แค่รถอย่างเดียว คนที่ตรวจสอบท่านผมก็จะเอาเรื่องด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเด็นที่ 2 รถที่มีอายุยิ่งเก่า เราต้องมีมาตรการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ๆ เราจะต้องมีมาตรการในการตรวจสอบ ในการตรวจวัดค่าต่าง ๆ ของรถที่เก่าให้เข้มงวดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถบรรทุก  หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะ ถ้าหากว่าคุรไม่ดูแลรักษาสภาพรถ รถของคุณก็ไม่ควรได้สิทธิในการวิ่งบนท้องถนน การทำแบบนี้ แน่นอนว่าจะกระทบกับวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน คุณจะต้องมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ในการดูแลรักษารถ แต่ต้นทุนเหล่านี้เป็นต้นทุนที่จะทำให้คุณมีอากาศที่สะอาดขึ้น นั่นคือในส่วนของเมือง

รถควันดำในกรุงเทพฯยังไม่ได้รับการจัดการอย่างเด็ดขาด พอออกไปต่างจังหวัด ในส่วนของ ไม่ว่าจะเป็นการเผาอ้อย จะเป็นการเผาไร่นาต่าง ๆ เราก็จะเสนอให้พี่น้องประชาชน ปรับเปลี่ยนวิธีนอกจากการเผาแล้ว ท่านสามารถเอาเศษวัสดุทางการเกษตรที่เหลือไปทำอย่างอื่น ยกตัวอย่าง วันนี้มีเทคโนโลยีแล้ว เช่น BioCha เอาไปเผาแบบไม่ใช้อากาศ ออกมาเป็นถ่านและอัดกลับเข้าไปในดินใหม่ นั่นคือแนวทางที่เราจะสนับสนุน ส่วนแนวทางในการลงโทษนั้น อีกไม่นาน ข้าวของท่าน ถ้าท่านยังเผาอยู่ ท่านจะส่งไปขายเมืองนอกไม่ได้ เพราะว่ากำแพงภาษีเรื่องสิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวกำหนด

ดังนั้น วันนี้อย่ารอให้ต่างชาติมาบังคับเลยครับ มาบังคับตัวเราเอง มาเปลี่ยนวิธี อย่าเผา และมารักษาสภาพแวดล้อมกัน เพราะถ้าเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ คือคุณไม่ได้ทำร้ายคุณทำร้ายตัวคุณเอง จะให้จับได้ไหม มันจับได้ทั้งนั้น  แต่ว่ามันก็กระเทือนกับวิธีชีวิตของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่แค่เฉพาะในต่างจังหวัดด้วย มันพัดกลับเข้ามาจนถึงในกรุงเทพมหานคร ดังนั้น มันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมาร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด ผลผลิตในต่างจังหวัด ต้องถือมาตรการเลยว่า ถ้าใครเผานา ไม่ให้รับซื้อข้าวต่าง ๆ เหล่านี้ มันจะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดต่าง ๆ ออกมา

อย่างที่บอกว่า ฝุ่น 60% มาจากรถยนต์ ประชาชนต้องเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือเปล่า

ไม่ได้บอกว่าต้องเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า เราบอกแค่ว่า รถของท่าน วันนี้เรามีการพูดถึงรถยูโร 4 ยูโร 5 ยูโร 6 เนี่ย กว่า 60% ของรถยนต์ในกรุงเทพมหานคร มาตรฐานอยู่ที่ ยูโร 2 แล้วก็ไม่ได้รับการดูแลรักษาเครื่องยนต์

ยกตัวอย่างเช่นเมื่อปลายปีที่แล้ว กระทรวงทรัพเราเราคาดการณ์แล้วว่าจะเกิด PM2.5 ในช่วงนี้ เราก็ได้ร่วมมือกับทางสภาอุตสาหกรรม แล้วก็ค่ายรถกว่า 11 ค่าย ค่ายรถใหญ่ในประเทศไทย เปิดโปรโมชั่นแคมเปญให้คนเอารถของท่านเข้ามาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อให้เครื่องยนต์เผาไหม้ได้ไวขึ้น ปรากฎว่าก็ได้รับความร่วมมือ แต่มาแต่ส่วนน้อย

กวดขันให้ทุกคนดูแลรถของตนเองให้ดี สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ที่บอกคนบอกว่าไม่มีเงิน ก็แล้วจะให้ทำยังไง เราสามารถมีโปรโมชัน เราขอให้ภาคเอกชนมาช่วยได้ ดังนั้น ถ้าคุณมียานพาหนะ คุณก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าสักแต่ซื้อรถมา แล้วพอถึงเวลาชั้นปล่อย ๆ ชั้นก็จะทำแบบนี้ มันก็จะเกิดผลกระทบแบบนี้ต่อไป

เราไม่ได้ผลักภาระใหกับพี่น้องประชาชน เราเพียงแค่ขอว่า หากคุณจะซื้อรถ ช่วยดูแลรถยนต์ของคุณหน่อย และการดูแลต่าง ๆ มาตรการต่าง ๆจะต้องเข้มงวดขึ้น อย่างที่ผมบอกว่า ตรอ.ไหน ปล่อยรถคันนี้ออกมา ผมจะไปปิดตรอ.นั้น

แล้วเรื่องของการสนับสนุนรถสารธาณะไฟฟ้าล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง?

อันนี้ก็เป็น 2 เรื่องเหมือนกัน เรื่องแรกของชาติไทยพัฒนาคือ การขยายเครือข่ายขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุมไปทุก ๆ หัวมุมในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร สถานีรถไฟฟ้า Feeder ที่จะรับคนจากคนในชุมชนมาจนถึงสถานีรถไฟฟ้าต่าง ๆ เหล่านี้ จะต้องได้รับการขยาย

ประเด็นที่สอง คือ การที่เราจะสนับสนุนรถไฟฟ้าต่าง ๆ เหล่านี้ เราก็ต้องมาปรับเปลี่ยนแนวคิดของคน เพราะคนไทยบางทีจะรู้สึกว่า ถ้ามีรถฉันเท่ ไปรถสาธารณะฉันไม่เท่  แต่วันนี้ ถ้าหากเรามาแชร์ THE ROAD ใช้ยานพาหนะให้น้อยลง ใช้ขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น ผมคิดว่า รัฐบาลยังไงก็มีนโยบายขยายเครือข่ายขนส่งสาธารณะอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถ เรือ ราง

ส่วนประเด็นที่ 2 ที่ผมพูดถึงก็คือว่า วันนี้ด้วยการทำงานของกระทรวงทรัพฯ เราได้เริ่มโครงการซื้อขายคาร์บอนเครดิตภายใต้ Article 6.2 ของ Paris Agreement เป็นนโยบายที่เปลี่ยนรถเมล์ในกรุงเทพมหานคร ให้เป็นรถไฟฟ้า เกิดขึ้นแล้ว ไม่ต้องรอในอนาคต วันนี้เราทำอยู่ เป็นนโยบายที่พรรคชาติไทยพัฒนาที่ดูแลกระทรงวงทรัพเริ่มโครงการนี้ที่เซ็นต์สัญญากับสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมาได้ เราทำแล้ว และเราก็จะต่อยอดไปอีก

ถ้าเกิดได้เป็นรัฐบาลหน้า จะผลักดันพรบ.อากาศสะอาดไหม

แน่นอน แต่ว่าต้องมานั่งดูกันอีกว่า มันซ้ำซ้อนกับสิ่งที่เรามีหรือไม่อย่างไร เราไม่ต้องการที่มาออกกฎหมาย ๆ มาแล้วซ้ำซ้อนกัน แล้วจะมีปัญหาในการปฏิบัติใช้ ต้องบอกว่าบ้านเรา พรบ.เยอะ กฎหมายเยอะ แต่หัวใจสำคัญคือมันไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย มันอยู่ที่การบังคับใช้

ปีหน้าจะต้องเจอกับฝุ่น PM2.5 อีกไหมนะ? คนจะพูดอยู่เสมอว่ากฎหมายมีคุณภาพ แต่ไม่มีประสิทธิผล คือมีกฎหมายออกมาเยอะแยะเลย แต่คนไม่ทำ เหมือนอย่างมาตรการ PM2.5 เรามีมาตรการหมดทุกเรื่อง แต่ถ้าพี่น้องประชาชน ไม่มาร่วมมือด้วย มันเหมือนตบมือข้างเดียว มันต้องตบมือ 2 ข้าง ฉะนั้นจะมีพรบ.อากาศสะอาดหรือไม่มี เราไม่เกี่ยงเลย เราสนับสนุน แต่ขอให้บังคับและทุกคนมาร่วมมือทำตามกฎหมายที่มีอยู่

เพราะทุกวันนี้ รถควันดำก็ยังวิ่งกันอยู่ ก็รู้ว่ารถคุณควันดำแต่ก็ยังวิ่งอยู่ ปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นไม่ใช่เรื่องของนโยบายอย่างเดียว แต่มันเป็นจิตสำนึกของพี่น้องประชาชนที่คุณต้องมาร่วมกันทำ เพราะมิฉะนั้นแล้ว นโยบายที่พูดมาทั้งหมดนี้ มันจะเป็นเพียงแค่ตัวหนังสือบนกระดาษ ถ้าคุณไม่มาร่วมมือกันและตบมือ 2 ข้าง

กล่าวทิ้งท้าย

คุณเอารถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไปหมั่นดูแลเครื่องยนต์ ทำความสะอาดไส้กรองเอย อะไรเอย รถทุกคัน ถ้าคุณดูแลตามระยะ แน่นอนครับว่ามันจะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่มันก็เป็นต้นทุนที่จะทำให้ชีวิตคุณยืนยาวขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เพราะว่าถ้าหากทุกคนคิดเช่นนี้หมด ทุกคนก็จะชีวิตสั้นลงเพราะคุณอยากประหยัด แต่คุณต้องไปเสียค่ารักษาโรคทางเดินหายใจ มันก็เป็นตัวเลือกที่คุณต้องเลือกเอาว่า อยากได้แบบไหน

related