เพนกวินมาเจลลันตายเกยหาดในอุรุกวัยนับพันตัว สภาพซูบผอม คาดขาดแคลนอาหาร

เหตุการณ์ที่เพนกวินมาเจลลัน (Magellanic penguins) ตายเกลื่อนหาดในอุรุกวัยถึง 2,000  ตัว สร้างความตกใจเป็นอย่างมากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสัตว์ชนิดนี้ แถม 90% ที่พบสภาพศพยังซูบผม ท้องว่าง ปราศจากไขมัน นักวิทยาศาสตร์ได้คาดว่าภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้จำนวนเพนกวินลดลง

Carmen Leizagoyen เจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งทำงานกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมของอุรุกวัย เผยว่า เพนกวินมาเจลลันที่ถูกพัดมาเกยบนหาด มีสภาพที่ตัวเล็ก ซูบผอมมาก ท้องว่าง ไม่มีไขมันสำรองในร่างกาย และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพนกวินถูกพัดขึ้นมาบนชายหาด

โดย Carmen ยังได้เผยเหตุการณ์จำนวนประชากรเพนกวินลดลง ดังนี้ซึ่งย้อนกลับไปในปี 2010 มีเพนกวินประมาณ 550 ตัวที่เสียชีวิตจากการขาดแคลนอาหารบนชายหาดของบราซิล 2 ปีต่อมามีอีก 745 ตัวตายเพิ่ม หรือในปี 2019 ที่มีเพนกวิน 354 ตัวตายจากคลื่นความร้อน

เนื้อหาที่น่าสนใจ : 

• "ยุคที่โลกเดือด" คลื่นความร้อนปกคลุมระอุทั่วโลก อุณหภูมิสูงทำผลกระทบหนัก

• 'Barbie นักวานรวิทยา' ทำจากพลาสติกรีไซเคิลเก็บจากทะเล 90%

• สัญญาณแปลก! ออสเตรเลียพบวาฬนำร่องรวมตัวแน่น ก่อนภายหลังพบเกยตื้นตายเพียบ

ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะทำลายข้อมูลสถิติเดิม เพราะจำนวนเพนกวินเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมากขึ้นแบบก้าวกระโดนจนน่ากังวล ซึ่งสาเหตุก้ยังไม่ทรายแน่ชัด แต่นักวิทยาศาสตร์คาดว่าอาจมาจากพายุไซโคลนใกล้เขตร้อนนอกชายฝั่งอุรุกวัย อาจทำให้จำนวนประชากนเพนกวินอดอยาก หิวโหย และอ่อนแอลงในที่สุด ไม่ใช่แค่เพนกวินเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ ยังมีสัตว์อื่นๆ อีก เช่น นกทะเล สิงโตทะเล ก็เคยถูกพัดมาที่บริเวณชายหาดรอบๆ เช่นกัน

ที่น่าสงสัยคือสัตว์ที่ถูกพัดมาที่หาดก็มีสภาพที่ไม่มีไขมันสำรอง ท้องว่าไม่มีอาหารเช่นกัน นั่นอาจหมายถึงสัตว์ที่เป็นเหมือนแหล่งอาหารของพวกมันมีจำนวนน้อยหรือไม่มีแล้ว?

องค์กรสวัสดิภาพสัตว์ SOS Rescate de Fauna Marina การขาดแคลนอาหารของสัตว์ทะเลมาจากการที่มนุษย์ทำประมงมากเกินไปในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change ก็มีผลกับกระแสน้ำนอกชายฝั่งและทำให้เกิดเหตุการณ์ที่สัตว์เสียชีวิตจากการขาดแคลนอาหารเพราะแหล่งอาหารของพวกมันเหลือน้อยเต็มที

ที่มา : Science Alert