svasdssvasds

"ยุคที่โลกเดือด" คลื่นความร้อนปกคลุมระอุทั่วโลก อุณหภูมิสูงทำผลกระทบหนัก

"ยุคที่โลกเดือด" คลื่นความร้อนปกคลุมระอุทั่วโลก อุณหภูมิสูงทำผลกระทบหนัก

ตอนนี้คลื่นความร้อนกำลังเป็นภัยที่น่ากลัวกับโลกและมนุษย์ องค์การสหประชาชาติเผยว่าโลกเลยจุดที่เรียกว่าโลกร้อนไปแล้ว เข้าสู่ "ยุคที่โลกเดือด" แล้วต่างหาก เพราะคลื่นความร้อนได้ปกคลุมหลายพื้นที่ทั่วโลก ทั้งซีกโลกเหนือ บางส่วนของยุโรปและอเมริกา รวมถึงเอเชีย

นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้กล่าววถึงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาคลื่นความร้อนที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตทางการเกษตร ภัยธรรมชาติ ความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิต และสุขภาพของมนุษย์ โดยพบว่าหลายพื้นที่มีคนเสียชีวิตหรือเจ็บป่วยจากอากาศร้อนจำนวนไม่น้อย

"ยุคที่โลกเดือด" คลื่นความร้อนปกคลุมระอุทั่วโลก อุณหภูมิสูงทำผลกระทบหนัก

โดยนายอันโตนิโอ ได้กล่าวในที่ประชุมว่าด้วยโลกร้อนที่จัดขึ้นที่นิวยอร์คเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ว่า โลกต้องมีปฏิบัติการอย่างถึงรากถึงโคนโดยทันทีเพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเขากล่าวว่าอุณหภูมิในเดือนกรกฎาคมร้อนทำลายสถิติ แสดงให้เห็นว่าโลกได้ผ่านจากช่วงโลกร้อนไปสู่ ​​"ยุคที่โลกเดือด" แล้ว

ตอนนี้คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมซีกโลกเหนือ รวมถึงบางส่วนของยุโรปและอเมริกา ส่งผลให้เกิดอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทำให้เกิดไฟป่ารุนแรง ใน ประเทศต่างๆ เช่น กรีซ อิตาลีและแอลจีเรียตามแนวทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เขากล่าวว่า “สำหรับทั้งโลก มันคือหายนะ” และ “หากไม่เกิดยุคน้ำแข็งขนาดย่อมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เดือนกรกฎาคม 2566 อุณหภูมิจะทำลายสถิติสูงสุดทั่วโลก”

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ มันน่ากลัวมาก และมันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยุคโลกร้อนสิ้นสุดลงแล้ว ยุคที่โลกเดือดมาถึงแล้ว”

สภาพอากาศที่รุนแรงตลอดเดือนกรกฎาคม ก่อให้เกิดหายนะทั่วโลก อุณหภูมิทำลายสถิติในจีน สหรัฐอเมริกา และยุโรปตอนใต้  เกิดไฟป่า การขาดแคลนน้ำ และการเจ็บป่วยจากความร้อน และผู้คนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น

เนื้อหาที่น่าสนใจ : 

คลื่นความร้อนได้ส่งผลให้บนเกาะซิซิลีของอิตาลี มีผู้เสียชีวิต 2 คน จากบ้านที่ไฟป่าลามเข้ามาเผา สนามบินนานาชาติของเมืองปาแลร์โมต้องปิดชั่วคราว อีกทั้งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 รายในแอลจีเรีย และอีกหลายพันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่บางส่วนของยุโรป เนื่องจากคลื่นความร้อนรุนแรงที่แผ่กระจายไปทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและภูมิภาคอื่นๆ

ในกรีซ ไฟที่ลุกไหม้บนเกาะโรดส์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้บีบให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในประเทศ โดยประชาชนกว่า 20,000 คนถูกบังคับให้ออกจากบ้านและโรงแรม

"ยุคที่โลกเดือด" คลื่นความร้อนปกคลุมระอุทั่วโลก อุณหภูมิสูงทำผลกระทบหนัก

ข้ามมาที่ฝั่งญี่ปุ่นสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานว่าจุดสังเกตการณ์สภาพอากาศทั่วประเทศมากกว่า 200 แห่ง ตรวจวัดอุณหภูมิได้สูง 35 องศาเซลเซียสขึ้นไป เมื่อวันพุธ 26 ก.ค.โดยบางพื้นที่พบกับ "วันอากาศร้อนที่สุด" ของปีนี้รายงานระบุว่าเมืองฮาโตยามะ จังหวัดไซตามะ ใกล้กับกรุงโตเกียว ตรวจวัดอุณหภูมิได้ 39.7 องศาเซลเซียส ซึ่งเท่ากับอุณหภูมิสูงสุดของญี่ปุ่นในปีนี้ที่ตรวจวัดได้ในเมืองคิริว จังหวัดกุนมะ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา

ย่านใจกลางกรุงโตเกียวตรวจวัดอุณหภูมิสูง 37.7 องศาเซลเซียส ซึ่งกลายเป็นวันอากาศร้อนที่สุดในปีนี้ของโตเกียว โดยอุณหภูมิสูงเกิน 35 องศาเซลเซียส รวม 8 วัน ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งแซงหน้าสถิติ 7 วันในปี 2001 ทั้งนี้ สำนักงานฯ ระบุว่าญี่ปุ่นจะยังคงประสบกับภาวะอากาศร้อนจัดจนถึงวันพฤหัสบดี 27 ก.ค. จึงแนะนำประชาชนใช้เครื่องปรับอากาศตามความเหมาะสมและดื่มน้ำให้พอเพียงอยู่เสมอ

ก่อนการประชุม Climate Ambition Summit ที่นายอันโตนิโอจะเป็นเจ้าภาพในเดือนกันยายน เขาเรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาแล้วมุ่งมั่นที่จะบรรลุความเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี  2583  และปี 2593 สำหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่

 

ที่มา : Alijazeera / xinhua