svasdssvasds

โลกร้อนกระทบผู้สูงอายุมากกว่าวัยหนุ่มสาว ทำให้เกิดปัญหาประชากรและอาชีพ

โลกร้อนกระทบผู้สูงอายุมากกว่าวัยหนุ่มสาว ทำให้เกิดปัญหาประชากรและอาชีพ

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change ส่งผลกระทบกับสิ่งมีชีวิตทั้งมนุษย์และสัตว์ โดยภาวะโลกร้อนส่งกับมนุษย์ทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะผู้สูงอายุ

งานวิจัยล่าสุดเผยว่าภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบกับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะประชากรชายฝั่งที่มีเปราะบางมากขึ้น เนื่องจากคนหนุ่มสาวย้ายถิ่นฐานหนีจากทะเลที่สูงขึ้น

โลกร้อนกระทบผู้สูงอายุมากกว่าวัยหนุ่มสาว ทำให้เกิดปัญหาประชากรและอาชีพ

โลกร้อนทำให้เกิดการย้ายถิ่น

​​​​สถานการณ์น้ำทะเลสูงขึ้นและมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ชุมชนต่างๆ ตามแนวชายฝั่งของสหรัฐอเมริกาจะเผชิญกับน้ำท่วมบ่อยครั้งมากขึ้นจากกระแสน้ำสูงและพายุโซนร้อน บ้านหลายพันหลังอยู่อาศัยไม่ได้หรือหายไปใต้น้ำ ผู้คนที่อาศัยบริเวณนี้จึงมีความเสี่ยงและมีแนวโน้มที่จะอพยพออกจากพื้นที่ อย่าง New Orleans, Louisiana, Miami และ Florida ซึ่งมีแนวโน้มที่จะอพยพไปในพื้นที่ที่น้ำท่วมน้อยกว่า

การย้ายถิ่นฐานจะเป็นคนหนุ่มสาวที่ย้ายถิ่นฐานมากกว่าผู้สูงอายุ เนื่องจากโอกาสด้านการงานที่ดีกว่า และเหตุผลภัยโลกร้อนซึ่งชาวอเมริกันอพยพออกจากพื้นที่ด้วยเหตุผลด้านภัยพิบัติทางสภาพอากาศมากขึ้น ปรากฏการณ์นี้พบเห็นแล้วในสถานที่ต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา เช่น นิวออร์ลีนส์ ซึ่งผู้สูงอายุมีโอกาสน้อยที่จะอพยพระหว่างพายุเฮอริเคนแคทรีนาในปี 2548 และในเปอร์โตริโก ซึ่งอายุมัธยฐานได้เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่พายุเฮอริเคนมาเรียในปี 2017 เนื่องจากคนหนุ่มสาวออกจากดินแดนของสหรัฐฯ ไปยังรัฐบนแผ่นดินใหญ่

โลกร้อนกระทบผู้สูงอายุมากกว่าวัยหนุ่มสาว ทำให้เกิดปัญหาประชากรและอาชีพ

ผู้สูงอายุย้ายถิ่นน้อยที่สุด

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นตัวเร่งให้เกิดการย้ายถิ่นฐาน การใช้แบบจำลองการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและข้อมูลการย้ายถิ่นที่รวบรวมจากการสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาล่าสุด พบว่าโลกร้อนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของประชากร เช่น ประชากรบริเวณชายฝั่งของฟลอริดาและจอร์เจียมีการอพยพมากที่สุด และรัฐที่มีประชากรย้ายเข้ามามากที่สุดคือ เท็กซัส และเทนเนสซี ซึ่งเป็นประชากรหนุ่มสาว

แมทธิว ฮาวเออร์ ศาสตราจารย์วิชาภูมิศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐฟลอริดา กล่าวว่า “ผู้คนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังนั้นเป็นผู้สูงอายุซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่เราคิดไว้มาก” ผลกระทบที่กระทบกระเทือนจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากรในลักษณะนี้ทำให้เกิดปัญหายุ่งยากสำหรับชุมชนสูงวัย

โลกร้อนกระทบผู้สูงอายุมากกว่าวัยหนุ่มสาว ทำให้เกิดปัญหาประชากรและอาชีพ

โลกร้อนส่งผลกับการจ้างงาน

​​​นอกจากนี้โลกร้อนยังกระทบกับอาชีพการจ้างงาน คนงานก่อสร้างน้อยลง แพทย์น้อยลง พนักงานเสิร์ฟน้อยลง และกำลังแรงงานโดยรวมลดลง มูลค่าทรัพย์สินและรายได้จากภาษีมักจะลดลงเนื่องจากการเติบโตหยุดชะงัก ซึ่งนำไปสู่การกัดเซาะของบริการสาธารณะ ปัจจัยทั้งหมดนี้ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากต้องออกจากชายฝั่ง แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นก็ตาม

ผู้คนราว 1.5 ล้านคนจะย้ายออกจากพื้นที่ชายฝั่งภายใต้สถานการณ์โลกร้อนโดยอุณหภูมิจะร้อนขึ้นประมาณ 2 องศาเซลเซียสภายในปี 2100 แต่เมื่อพวกเขาคำนึงถึงผลกระทบแบบโดมิโนจากการเปลี่ยนแปลงอายุ ก็ประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 15 ล้านคน “หากไมอามีเริ่มสูญเสียผู้คนไป และมีคนในไมอามีน้อยลง ความต้องการในทุกอาชีพก็ลดลง และโอกาสที่ใครบางคนจะย้ายไปไมอามีแทนที่จะย้ายไปที่อื่นก็จะลดลงเช่นกัน” ผู้เชี่ยวชาญ กล่าว 

 
ที่มา : Pop Sci
 

นื้อหาที่น่าสนใจ :