svasdssvasds

เปิดสถิติ "สภาพอากาศสุดขั้ว" ในไทยในรอบกว่า 50 ปี ภาคไหนกระทบหนักสุด

เปิดสถิติ "สภาพอากาศสุดขั้ว" ในไทยในรอบกว่า 50 ปี ภาคไหนกระทบหนักสุด

กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เผยสถิติ "สภาพอากาศสุดขั้ว" ของประเทศไทยระหว่าง พ.ศ. 2513-2565 ที่ผ่านมา เกิดในช่วงไหน และแต่ละภูมิภาคเป็นอย่างไร

SHORT CUT

  • สภาพอากาศสุดขั้ว คือ สภาวะอากาศที่รุนแรงผิดปกติ จนอาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรง เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
  •  กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้เผยข้อมูล สภาพอากาศสุดขั้วของประเทศไทย ระหว่างปี ค.ศ. 1970-2022 (พ.ศ. 2513-2565)
  • สภาพอากาศรุนแรงสุดขั้วเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นพายุหมุนเขตร้อน ฝนตกรุนแรง น้ำท่วม ไปจนถึงคลื่นความร้อนและภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์

กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เผยสถิติ "สภาพอากาศสุดขั้ว" ของประเทศไทยระหว่าง พ.ศ. 2513-2565 ที่ผ่านมา เกิดในช่วงไหน และแต่ละภูมิภาคเป็นอย่างไร

ในปัจจุบันมักจะเห็นข่าวเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงสุดขั้วเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นพายุหมุนเขตร้อน ฝนตกรุนแรง น้ำท่วม ไปจนถึงคลื่นความร้อนและภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งปรากฏการณ์นี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยมีภาวะโลกร้อนเป็นตัวขับเคลื่อน ทำให้รูปแบบสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไป

อีกทั้งยังเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ และระบบนิเวศต่างๆ อีกด้วย ซึ่งประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วด้วยเช่นกัน

สภาพอากาศสุดขั้วในประเทศไทย คืออะไร

สภาพอากาศสุดขั้ว คือ สภาวะอากาศที่รุนแรงผิดปกติ จนอาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรง เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

สาเหตุที่ทำให้เกิดสภาพอากาศสุดขั้ว 

  • คลื่นความร้อน 
  • ฝนตกหนัก 
  • พายุทอร์นาโด 
  • พายุหมุนเขตร้อน 
  • น้ำท่วม 
  • ไฟป่า
  • ภัยแล้ง

Global Climate Risk Index 2021 จัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ที่ 9 ประเทศที่มีความเสี่ยงต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

เพจเฟซบุ๊ก กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้เผยข้อมูล สภาพอากาศสุดขั้วของประเทศไทย ระหว่างปี ค.ศ. 1970-2022 (พ.ศ. 2513-2565)

วิเคราะห์จากข้อมูลตรวจวัดของกรมอุตุนิยมวิทยา 65 สถานี

สภาพอากาศแบบผสมระหว่างอากาศร้อนและฝนตกหนัก

  • สภาพอากาศแบบผสมระหว่างอากาศร้อนและฝนตกหนัก

  • ภาคเหนือ : เกิด 2 เหตุการณ์/ปี 
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เกิด 2 เหตุการณ์/ปี
  • ภาคกลาง : เกิด 2 เหตุการณ์/ปี
  • ภาคตะวันออก : เกิด 2 เหตุการณ์/ปี
  • ภาคใต้ : เกิด 1 เหตุการณ์/ปี

โดย CHPEs (อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุดมากกว่า 35 องศาเซลเซียส บวกกับมีปริมาณฝนมากกว่า 35.1 mm.)ในภาพรวมประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (0.26 เหตุการณ์/ทศวรรษ) CHPEs ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมถึงกรกฎาคม

 

จำนวนวันที่สภาพอากาศร้อน (อุณหภูมิสูงสุดมากกว่า 35 องศาเซลเซียส) เฉลี่ย

จำนวนวันที่สภาพอากาศร้อน (อุณหภูมิสูงสุดมากกว่า 35 องศาเซลเซียส) เฉลี่ย

  • ภาคเหนือ : 89 วัน/ปี
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : 70 วัน/ปี
  • ภาคกลาง : 97 วัน/ปี
  • ภาคตะวันออก : 48 วัน/ปี
  • ภาคใต้ : 23 วัน/ปี

โดยจำนวนวันที่สภาพอากาศร้อน ในภาพรวมของประเทศไทย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (7 วัน/ทศวรรษ) ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม

จำนวนวันที่ฝนตกหนัก (ปริมาณฝนมากกว่า 35.1 mm.) เฉลี่ย

จำนวนวันที่ฝนตกหนัก (ปริมาณฝนมากกว่า 35.1 mm.) เฉลี่ย

  • ภาคเหนือ : 30 วัน/ปี
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : 10 วัน/ปี
  • ภาคกลาง : 9 วัน/ปี
  • ภาคตะวันออก : 17 วัน/ปี
  • ภาคใต้ : 16 วัน/ปี

โดยจำนวนวันที่ฝนตกหนักในภาพรวมของประเทศไทย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (0.25 วัน/ทศวรรษ) ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม

ที่มาข้อมูล : กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

related