บางคนถึงกับเรียกร้องให้ฟ้าผ่า เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ! รู้หรือไม่ โลกร้อน อาจมีส่วนทำให้เกิดปรากฎการณ์ฟ้าผ่าบ่อยขึ้น ทำให้เกิดไฟป่าและคนตายเพิ่มขึ้น
สายฟ้าฟาด เป็นเหมือนปรากฎการณ์กล่องสุ่ม ที่คาดเดาไม่ค่อยได้เลยว่าจะผ่าฟาดลงไปที่ใด แต่ความรุนแรงของมันนั้น ทำให้สิ่งมีชีวิตตายมาหลายครั้งหลายคราแล้ว แม้ว่าฟ้าผ่าจะเป็นปรากฎการณ์คู่หูที่มาพร้อมกับสายฝนกระหน่ำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติในวันฝนตก แต่เชื่อไหมว่า ปัจจุบัน ปรากฎการณ์ฟ้าผ่ากำลังรุนแรงมากยิ่งขึ้น และเกิดถี่ขึ้น อันเป็นผลพวงมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศสุดขั้ว หรือ ภาวะโลกร้อน
ปีนี้เป็นปีที่หลายประเทศทั่วโลก เริ่มเข้าสู่ปรากฎการณ์ลานีญา (มีฝนตกฉุกและความหนาวเย็น) ก็จะส่งผลให้หลายพื้นที่เผชิญหน้ากับฝนฟ้าคะนอง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศไทยที่ได้เข้าสู่ฤดูฝนเต็มรูปแบบแล้ว
อาจารย์สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์ข้อมูลน่าสนใจ ว่าทำไมโลกร้อน จึงทำให้เกิดฟ้าผ่าบ่อยขึ้น โดยอาจารย์ได้อธิบายว่า
เมื่อโลกร้อนขึ้น ทำให้มีความชื้นในอากาศฤดูร้อนเพิ่มขึ้น เกิดเมฆคิวมูโลนิมบัส ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้ามากขึ้น ซึ่งกลุ่มเมฆเหล่านี้เป็นสาเหตุของฝนฟ้าคะนองและเกิดฟ้าร้อง ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า
ข้อมูลจาก Carbon Brief เผยว่า ในแต่ละปี จะมีฟ้าผ่าในสหรัฐอเมริกาประมาณ 25 ล้านครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายและสร้างความเสียหายจากไฟไหม้เป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า จำนวนฟ้าผ่าอาจเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ภายในศตวรรษที่ 21 นี้ หากโลกยังร้อนขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้
งานวิจัยหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science แสดงให้เห็นว่า ฟ้าผ่าในสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 สำหรับทุก ๆ องศาของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น หากยังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับปัจจุบัน
ดังนั้น หากอุณหภูมิสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียส ฟ้าจะผ่าเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ใน 4 และถ้าอุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4 องศาเซลเซียส หรือก็คือเพิ่มอีกครึ่งหนึ่ง ก็หมายความว่าฟ้าจะผ่าเพิ่มมากขึ้นมากกว่า 10 ล้านครั้งต่อปี
รายงานหนึ่งจาก The Economic Times เผยว่า ภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้มีพายุฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และก็ทำให้เกิดฟ้าผ่าบ่อยขึ้น โดยยกตัวอย่างข่าวในประเทศอินเดีย ที่มีคนเสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่าอย่างน้อย 43 รายในรัฐอุตตรประเทศ และอีก 21 รายในรัฐหิพาร ในเดือนกรกฎาคม ปี 2024
ในอินเดีย คนเสียชีวิตจากฟ้าผ่าส่วนใหญ่มักเป็นเกษตรกร ที่อยู่ระหว่างปลูกข้าวในทุ่งนา เลี้ยงวัว หรือไม่ก็ไปหลบฝนใต้ต้นไม้ โดยตามรายงานของสถาบันอุตุนิยมวิทยาเขตร้อนของอินเดีย ระบุว่า เหตุการณ์ฟ้าผ่าในอินเดียเพิ่มขึ้น 30-40% ระหว่างปี 1995-2014
และรายงานอาชญากรรมในอินเดียประจำปี 2022 ของสำนักงานบันทึกอาชญากรรมแห่งชาติ (NCRB) ระบุว่า ฟ้าผ่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิต 2,887 รายจากทั้ง 8,060 รายที่เกิดจากพลังธรรมชาติ จนบางรัฐถึงกลับออกมาเรียกร้องให้ทางการประกาศว่าฟ้าผ่าเป็นภัยธรรมชาติ และครอบครัวผู้เสียชีวิตควรได้รับสิทธิ์ค่าชดเชยจากกองทุนภัยพิบัติของรัฐ
อย่างไรก็ตาม นักวิทย์ยอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่จะคำนวนและคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบอย่างไรต่อเหตุการณ์ฟ้าผ่าในปัจจุบัน เนื่องจากแบบจำลองสภาพอากาศไม่สามารถจำลองฟ้าผ่าได้โดยตรง และยังไม่มีข้อมูลระยะยาวมากพอที่จะยืนยันการเพิ่มขึ้นของเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ก็สามารถสรุปได้ว่า โลกร้อนเป็นหนึ่งกิจกรรมที่นำพาความร้อนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองมากขึ้น จึงเกิดฟ้าผ่าบ่อยขึ้นด้วยนั่นเอง
หากมีเมฆฝนคะนองอยู่เหนือศรีษะแล้วเส้นขนบนผิวหนังลุกขึ้น หรือเส้นผมบนศรีษะลุกตั้ง แสดงว่ากำลังเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า หรือหากเกิดฝนฟ้าคะนองใกล้ตัวระยะ 16 กิโลเมตร และได้ยินเสียงฟ้าร้องหลังจากฟ้าแลบน้อยกว่า 30 วินาที แสดงว่าอยู่ใกล้เขตเสี่ยงต่อฟ้าผ่า