ชาวตูวาลูเกือบ 1 ใน 3 ยื่นขอวีซ่าประเภทใหม่ที่ออกโดยออสเตรเลีย ให้สามารถย้ายไปอยู่ออสเตรเลียได้ ในฐานะผู้ลี้ภัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
รายงานจาก The Guardian เผยว่า พลเมืองเกือบหนึ่งในสามของประเทศตูวาลู ซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังยื่นขอวีซ่า โดยหมายเหตุบริบทคือลี้ภัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อไปอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย ในขณะที่ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น คุกคามชายฝั่งของพวกเขามานานหลายสิบปีแล้ว
นักวิทยาศาสตร์รวมไปถึงนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมของตูวาลูเองออกมาเผยนานแล้วว่า ตูวาลู เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คนจะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ภายใน 80 ปีข้างหน้า พื้นที่เกาะจะจมน้ำเกือบทั้งหมด ปะการัง 2 ใน 9 ของหมู่เกาะนี้จะหายไปเกือบหมดใต้คลื่นทะเล
ด้วยเหตุนี้ ชาวตูวาลูมากกว่า 3,000 คนจึงได้เข้าร่วมลงคะแนนเพื่อขอรับวีซ่าชุดแรกแล้ว ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการของโครงการที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา ซึ่งคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของจำนวนประชากรทั้งประเทศ (จากประชากรทั้งหมดที่มีเพียงหลักหมื่นต้น ๆ )
กระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลียกล่าวว่า “ออสเตรเลียตระหนักถึงผลกระทบอันเลวร้ายที่การเปลี่ยนแปสภาพภูมิอากาศมีต่อการดำรงชีวิต ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีของประเทศและประชาชนที่เปราะบางต่อสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคแปซิฟิก”
การโยกย้ายของพลเมืองตูวาลู สามารถเป็นไปได้ เนื่องจากออสเตรเลียเสนอวีซ่าให้กับพลเมืองตูวาลู 280 คนต่อปีภายใต้ข้อตกลงการย้ายถิ่นฐาน เนื่องจากสภาพอากาศ จนได้รับขนานนามว่า “ข้อตกลงประเภทนี้แห่งแรกของโลก”
ออสเตรเลียและตูวาลูได้ลงนามในสหภาพ Falepili (ข้กตกลฟาเลปิลี) สร้างประวัติศาสตร์ในปี 2024 ในการเปิดประเภทวีซ่าใหม่ที่จัดเตรียมไว้สำหรับพลเมืองผู้ใหญ่ของตูวาลูโดยเฉพาะ โดยจะมีค่าลงทะเบียน 25 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 530 บาท และจะปิดลงทะเบียนในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้
อย่างไรก็ตาม จอห์น คอนเนลล์ นักภูมิศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์เตือนว่า การอพยพของคนงานในระยะยาว อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของตูวาลูได้
“รัฐเล็กๆ ไม่มีงานทำมากนัก และกิจกรรมบางอย่างก็ไม่ต้องการคนมากขนาดนั้น” เขากล่าว “เกาะปะการังไม่มีอนาคตที่ดีนัก เกษตรกรรมนั้นยาก การประมงมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมแต่ไม่ได้สร้างการจ้างงาน”
ข้อตกลงฟาเลปิลีมุ่งมั่นที่จะให้ออสเตรเลียปกป้องตูวาลูจากการเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคระบาด และ “การรุกรานทางทหาร”
นายกรัฐมนตรีของตูวาลู เฟเลติ เตโอ กล่าวในขณะนั้นว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่มีประเทศที่ให้คำมั่นทางกฎหมายที่จะให้ความช่วยเหลือตูวาลูเมื่อได้รับการร้องขอ เมื่อตูวาลูเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ โรคระบาด หรือการรุกรานทางทหาร”
ที่มา : The Guardian