svasdssvasds

เตรียมปิดม่าน COP30 สรุปจุดยืนไทย และสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 10 วันที่ผ่านมา

เตรียมปิดม่าน COP30 สรุปจุดยืนไทย และสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 10 วันที่ผ่านมา

สรุปการประชุมแก้โลกร้อน COP30 ณ เมืองบาเลง ประเทศบราซิล เกิดอะไรขึ้นบ้าง ตลอดระยะเวลาการประชุม 10 วัน จะเป็นทศวรรษแห่งการเปลี่ยนผ่าน หรือ แค่คำสัญญาที่ว่างเปล่า?

วันที่ 10-21 พฤศจิกายน 2568 คือระยะเวลาของการประชุมแก้โลกร้อน COP30 ณ เมืองเบเลง ประเทศบราซิล ที่ได้รวมเอาเหล่าผู้นำและตัวแทนจากนานาประเทศเข้าร่วมหารือในการชะลอวิกฤตสภาพภูมิอากาศ Keep The World ชวนสำรวจว่า ในช่วงระยะเวลา 10 วัน เกิดอะไรขึ้นบ้าง? แล้วไทยมีจุดยืนอย่างไรบนเวทีโลก

นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมแสดงล้อเลียน โดนัลด์ ทรัมป์ drill baby drill ที่เน้นการขุดเจาะหาเชื้อเพลิงฟอสซิล ต้นเหตุโลกร้อน Cr.Reuters

บทสรุป COP30 สิ้นสุดยุค “โลกเดือด” สู่วิกฤต “โลกรวน”

COP30 ถูกขนานนามว่า เป็น "COP แห่งความจริง" เนื่องจากโลกได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านอุณหภูมิ 1.5 องศาเซลเซียส ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรายงานล่าสุดชี้ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา (2558-2568) เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์

โดยแต่ละปีจะมีอุณภูมิสูงกว่าอุณหภูมิสูงสุดที่เคยมีมา ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกในช่วยเดือนมกราคม-สิงหาคม 2568 อยู่ที่ 1.42 องศาเซลเซียส สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 0.12 องศาเซลเซียส

ภูเขาที่ถูกถมดำไปด้วยขี้เถ้าและตอตะโกจากไฟป่า ที่สเปน ช่วงเดือนกันยายน 2025 Cr.Reuters

นอกจากนี้ยังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด อาทิ แผ่นน้ำแข็งในทะเลอาร์กติกละลายตลอดทั้งปี การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล จนนำไปสู่ พายุในมหาสมุทรแปซิฟิก ฝนตกหนัก น้ำท่วม ไปจนถึงพื้นที่แห้งแล้งจัดและไฟป่าในหลายพื้นที่ แสดงให้เห็นว่า สภาพอากาศที่แปรปรวน คือนิยามที่เด่นชัดของคำว่า “โลกรวน”  อย่างแท้จริง

Cr.Reuters

ดับมั่นเชื้อเพลิงฟอสซิล

วาระหลักของการเจรจาได้พุ่งเป้าไปที่ การเปลี่ยนผ่านพลังงาน และ การเงินด้านสภาพภูมิอากาศ ที่ต้องเป็นรูปธรรมมากกว่าเดิม จึงได้มีการกำหนด “แผนงานยุติเชื้อเพลิงฟอสซิล” ซึ่งมีการรวมพลังของกว่า 80 ประเทศ (ทั้งซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้) เรียกร้องให้ข้อตกลง “ดีลเบเลง” ต้องบรรจุ “แผนงานเพื่อการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว” ออกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างชัดเจน

โดยแผนงานนี้จะถูกใช้เป็นกรอบบังคับให้ทุกประเทศต้องดำเนินการลดการพึ่งพาน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินอย่างจริงจัง ตามคำมั่นที่เคยให้ไว้ใน COP28

เพิ่มเงินเพื่อป่า

บราซิลได้เปิดตัวกองทุนใหม่ “กลไกการเงินใหม่เพื่อป่า (Tropical Forests Forever Facility-TFFF)” ซึ่งเป็นกลไกลการเงินถาวรที่มุ่งเป้าหมายชัดเจนเพื่อ ‘ชดเชยแก่ประเทศเขตร้อน’ ที่สามารถอนุรักษ์ป่าฝนได้สำเร็จ กลไกนี้มีความก้าวหน้าอย่างยิ่ง เพราะมีการจัดสรรเงินทุน 20% โดยตรงให้กับ ชนพื้นเมือง ในฐานะผู้พิทักษ์ป่าตัวจริง ซึ่งถือว่าเป็นการผนวกประเด็นสิทธิเข้ากับกองทุนด้านสิ่งแวดล้อม และได้รับความเห็นชอบจากหลายประเทศ

Cr.Reuters

เงินทุนต้องเพิ่ม ไม่งั้นไปไม่รอด

การระดมทุนเป็นเรื่องสำคัญของการประชุม COP เพราะจะเป็นตัวชี้วัดศักยภาพในการลดก๊าซเรือนกระจก การปรับตัว ความเสียหายและความสูญเสีย ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะต่อผู้คนในประเทศยากจนและประเทศกำลังพัฒนา จากเดิมเป้าหมายที่ประเทศร่ำรวยต้องระดมทุนกันให้ได้อย่างน้อย 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จ)

COP30 ได้หารือใหม่ว่า 1 แสนล้าน น้อยไปแล้ว ต้องเพิ่มเป็น 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ภายในปี 2035 เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศกำลังพัฒนาจะมีเงินทุนเพียงพอในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและปรับตัวรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้ เป้าหมายเดิมยังไม่สำเร็จ เป้าหมายใหม่ที่มากกว่าเดิม เพิ่มความท้าทายมากขึ้น ซึ่งจะสำเร็จไหมต้องมารอลุ้นกัน

Cr.Reuters

ฉันกินเงินไม่ได้!” เสียงชนพื้นเมืองที่ถูกมองข้าม

เกิดเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงของกลุ่มชนพื้นเมืองในบราซิลจำนวนมากที่ได้พยายามบุกเข้าไปใน Blue Zone ของการประชุมหลายครั้ง เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้นำโลก เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ COP30 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

สถานการณ์นี้ตอกย้ำถึงความขัดแย้งของประเทศเจ้าภาพที่จัดงานในป่าแอมะซอน แต่กลับละเลยผู้ที่ดูแลผืนป่า พวกเขาเรียกร้องให้ รัฐบาลยุติการทำลายป่าที่ผิดกฎหมาย เช่น การขุดแร่ ตัดไม้ และธุรกิจการเกษตร รวมถึงคืนสิทธิในที่ดิน ให้กับชนเผ่าอย่างสมบูรณ์ พร้อมย้ำว่า “ที่ดินของเราไม่ได้มีเอาไว้ขาย”

Cr.Reuters

บทบาทไทยในเวที COP30

คณะผู้แทนจากประเทศไทย นำโดย นางสาวภัทรานันท์ ทองประพาฬ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้แสดงจุดยืนของประเทศไทย 3 สาระสำคัญในถ้อยแถลง โดย

  1. ไทยมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 47% จากระดับปกติภายในปี 2035 ตามเป้าหมาย NDC 3.0 ล่าสุดของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียสของข้อตกลงปารีส
  2. ไทยได้ขับเคลื่อนการออก กฎหมายโลกร้อน ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดตั้ง กองทุนโลกร้อน และการใช้ กลไกราคาคาร์บอน / ภาษีคาร์บอน เพื่อผลักดันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรม
  3. ไทยแสดงความหวัง ว่าผลจาก COP30 จะนำไปสู่ “ทศวรรษแห่งการเปลี่ยนผ่าน” ที่เป็นจริง เพื่อให้เกิดการลงมือปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและเร่งรัดในทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเน้นย้ำเรื่องการส่งเสริม การมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง โดยให้ทุกภาคส่วน ตั้งแต่เยาวชนไปจนถึงชุมชนท้องถิ่น มีบทบาทในการกำหนดและขับเคลื่อนแนวทางแก้ไขปัญหา

Cr.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

บทสรุปส่งท้าย

COP30 ที่บราซิลได้เป็นเจ้าภาพในปีนี้ ได้ส่งสารชัดเจนว่าโลกของเราก้าวเข้าสู่ภาวะที่ต้องลงมือทำจริง ๆ แล้ว คำมั่นหรือคำสัญญาถูกแทนที่ด้วยตารางเวลาที่มีเส้นตายใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เงินทุนก้อนใหม่ถูกจัดสรรเพื่อปกป้องระบบนิเวศ และถ้าหากคำสัญญานั้นไม่เกิดขึ้นจริง เสียงจากป่าจะกลับมาทวงคืนและตราหน้าคุณเอง เฉกเช่นที่ชนพื้นเมืองในบราซิลแสดงให้เห็น

Cr.Reuters

แม้การประชุมครั้งนี้อาจไม่ใช่การประชุมที่ไปได้สวยมากนัก แต่ถือว่าเป็นการต่อรองครั้งใหญ่ ที่เห็นความกระตืนรือร้นมากขึ้น และการยอมรับความจริงอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “โลกร้อน” คือเรื่องจริง ไม่ใช่คำทำนาย และเราต้องเอาชีวิตรอดจากวิกฤตนี้ไปให้ได้

related