svasdssvasds

ชวนคุยกับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รมว.พลังงาน ทุกประเด็นร้อนด้านพลังงาน

ชวนคุยกับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รมว.พลังงาน ทุกประเด็นร้อนด้านพลังงาน

พามาคุยกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน หลังเข้าทำงานวันแรกวันนี้ (13 ก.ย.66 ) เจ้าตัวเปิดใจ ยืนยันเดินหน้าลดค่าไฟฟ้า-น้ำมัน บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ลั่นอะไรที่ทำได้จะทำไปก่อน สิ่งไหนที่ยังทำไม่ได้จะทำต่อไป

วันนี้วันดี 13 กันยายน  2566 ที่บ้านพิบูลธรรม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ได้เข้าทำงานวันแรก พร้อมเผยทุกปมประเด็นร้อนเรื่องพลังงาน โดยได้เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน 2 มาตรการ จนถึงสิ้นปี 2566 ได้แก่ ลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 2.50 บาทต่อลิตร โดยจะมีผลภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา และปรับลดค่าไฟฟ้าเหลือ 4.10 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะเริ่มลดราคาค่าไฟฟ้าได้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2566 เป็นต้นไป

โดยจะอยู่ในกรอบเวลาทันบิลค่าไฟฟ้างวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.66) โดยในส่วนของน้ำเบนซินจะมีการพิจารณาเพิ่มเติมให้ความช่วยเหลือกลุ่มที่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเบนซินในการทำมาหากิน เช่น กลุ่มแท็กซี่ จักรยานยนต์รับจ้าง โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงพลังงานไปร่วมกันหาแนวทางควบคุมค่าการตลาด ซึ่งปัจจุบันแม้ว่าจะกำหนดอยู่ที่ 2 บาท แต่จากที่ได้รับรายงานพบว่า ยังมีการคิดค่าการตลาดมากกว่าที่กำหนด หากสามารถควบคุมได้ก็จะทำให้ราคาน้ำมันเบนซินลดลงมา ตอนนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้สั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ เข้าไปดูแลและทำงานร่วมกัน ทั้งนี้จะไม่ได้ทำเพียงแค่นี้แต่จะยังมีการหาสูตรอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว

รมว.พลังงานเข้าทำงานวันแรก

สำหรับค่าไฟฟ้าที่มีมติให้ลดราคาลงเหลือหน่วยละ 4.10 บาท หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปดำเนินการทันที โดยทั้งหมดเป็นมาตรการเร่งด่วนที่จะต้องทำทันที เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่าจากการคาดการณ์พบว่าปีหน้าความต้องการใช้ก๊าซจะลดน้อยลง ราคาก็จะถูกลงด้วย แต่สำหรับวันนี้จนถึงสิ้นปีราคาก๊าซซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตไฟฟ้าไม่ขยับสูงขึ้น โดยเชื่อว่าจะยังตรึงราคานี้ไว้ได้จนถึงสิ้นปี เช่นเดียวกับราคาของน้ำมันดีเซล

ส่วนเรื่องนโยบายเรื่องการนำเข้าน้ำมันเสรี นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เวลานี้อาจจะมีคนเข้าใจผิดไปมาก มีคนบอกว่าตอนนี้มีการนำเข้าน้ำมันเสรีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ตนพูดคือ การที่จะเปิดโอกาสให้กลุ่มที่อาจจะไม่ได้นำเข้าน้ำมันมาขาย ได้นำมาใช้ประกอบกิจการอย่างอื่น เช่น กลุ่มสมาคมแท็กซี่  หรือสมาคมขนส่งต่าง ๆ หากสามารถรวมตัวกันนำเข้าน้ำมันมาเองได้ก็จะสามารถลดต้นทุนลงได้ จะเป็นประโยชน์เพราะน้ำมันเป็นเรื่องจำเป็นของชีวิตถ้าหากสามารถลดต้นทุนลงได้ ก็จะทำให้ราคาสินค้าลดลงได้เช่นกัน

ในส่วนของพลังงานสีเขียวหรือพลังงานสะอาด ก็จะยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะเป็นแนวโน้มของโลก ซึ่งจะมีผลต่อเรื่องอื่น ๆ ด้วยเช่น การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ถ้าไม่ทำก็จะเกิดปัญหา สำหรับการเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน ตอนนี้ได้มีการเดินหน้าพูดคุยกันแล้ว ซึ่งผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการ และรัฐบาลก็จะได้เดินหน้าต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related