สรุปให้...พลายศักดิ์สุรินทร์ ทูตช้างไทยในศรีลังกา ยังรอวันกลับบ้าน หลังมีการร้องเรียนว่าสภาพร่างกายและจิตใจย่ำแย่เพราะถูกใช้งานหนัก จนใกล้พิการ เข่างอไม่ได้ 8 ปีแล้ว
เป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าอีกเรื่องหนึ่งของชีวิตสัตว์ไทยในต่างแดน เรื่องราวของพลายศักดิ์สุรินทร์ หรือถูกเรียกในภาษาศรีลังกาว่า มุทุราชา (Muthu Raja) เป็นช้าง 1 ใน 3 เชือกที่รัฐบาลไทยมอบให้กับรัฐบาลศรีลังกา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 และรัฐบาลศรีลังกาได้โอนกรรมสิทธิ์พลายศักดิ์สุรินทร์ให้แก่วัดคันเดวิหารเพื่อทำหน้าที่ขนส่งพระบรมสารีริกธาตุ ในช่วงงานแห่พระประจำปีของศรีลังกา ซึ่งมีเฉลี่ย 30 ครั้งต่อปี
เนื่องจากปัจจุบันพลายศักดิ์สุรินทร์ เป็นช้างตัวผู้ที่มีอายุ 30 ปีแล้ว หนักประมาณ 3.5 ตัน แต่มีอาการไม่สู้ดีนัก ผอมแห้ง เห็นกระดูกหลังโก่ง ผิวหนังหยาบ งายาวถึง 50 เซนติเมตร ขาหน้าด้านซ้ายผิดปกติ งอขาไม่ได้นาน 8 ปีแล้ว มีฝีหนอง สะโพกขวาและซ้าย พบเป็นก้อนแข็ง และมีหนอง ตั้งแต่ปี 2563 ฝ่าเท้าบางเพราะยืนนานเกินไป และมีอารมณ์เซื่องซึม ไม่ร่าเริง เครียดและตกมัน อีกทั้งยังถูกโซ่ตรวนไว้จนไม่สามารถเดินไปมาได้เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ปางช้าง" โต้เดือด! "นั่งแหย่งบนหลังช้าง" ไม่ได้ทรมานสัตว์ หลังโดนวิจารณ์
เผยภาพ ช้างไพลินวัย 71 ปี แบก นทท. 25 ปี กระดูกสันหลังยุบ เศร้าถึงขั้วหัวใจ
คลิปน่ารัก ครอบครัวช้างป่าเอเชียหลับพักเอาแรง ส่องช้างป่าเอเชีย มีกี่ชนิด
เมื่อทราบข้อกังวลดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และขอให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ดำเนินการรตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งในช่วงเดือนเดียวกันนั้นเองก็ได้แจ้งและส่งควาญช้างไทย ผู้เป็นเจ้าของ พลายศักดิ์สุรินทร์ บินไปดูแลถึงศรีลังกา
จากการเปิดใจควาญช้างไทย นายทองสุก มะลิงาม เจ้าของพลายศักดิ์สุรินทร์ผ่านสำนักข่าว Thaipbs หลังเจอหน้ากันในรอบ 21 ปี และได้ดูแลกันเป็นเวลา 1 เดือนแล้วตั้งแต่เดินทางมาถึง ตนเปิดเผยว่ารู้สึกเสียใจอย่างที่สุดที่ช้างที่ดูแลมาอย่างดี สุขภาพดีพร้อมก่อนส่งมาจะกลายสภาพเป็นทรุดโทรมมากถึงขนาดนี้ ซึ่งหากปล่อยไว้แบบนี้นานมันจะต้องสูญเสียขาไปจากการถูกล่ามโซ่ พวกเขาเลี้ยงช้างเหมือนนักโทษเลย และเราต้องการนำมันกลับไปรักษาที่ไทยให้เร็วที่สุด
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เผยว่า กำลังพยายามเร่งเอกสารการส่งตัวพลายศักดิ์สุรินทร์กลับประเทศไทย และก็พยายามแล้วตั้งแต่ปลายปี 2565 สาเหตุที่ยังไม่สามารถนำกลับมาได้มีปัจจัยหลักคือขนาดกรง
เนื่องจากพลายศักดิ์สุรินทร์เป็นช้างขนาดใหญ่และมีอายุมากแล้ว ตอนแรกว่าจะส่งกลับเครื่องบิน C130 แต่ก็เกรงว่าจะไม่สามารถใส่ได้พอ จึงจะเปลี่ยนไปขนส่งทางเรือ ซึ่งใช้เวลาขนส่งนานประมาณ 2 สัปดาห์ จากศรีลังกามาไทย
ด้วยระยะเวลาที่นานเกินไประหว่างเดินทาง จึงต้องหันกลับไปทบทวนใหม่เรื่องการขนส่งทางเครื่องบินพาณิชย์ ที่สามารถขนส่งกรงขนาดใหญ่ซึ่งมีไม่กี่ลำทั่วโลก มักใช้ขนส่งอาวุธสงคราม รถถัง ซึ่งต้องรอคิวในการขนส่งอีกที ทำให้ขั้นตอนการกลับบ้านของพลายศักดิ์สุรินทร์มีความล่าช้า
เราหวังว่าในท้ายที่สุด พลายศักดิ์สุรินทร์จะสามารถกลับมาพักผ่อนที่บ้านเกิดได้ในเร็ววันและสุขภาพดีขึ้นตามลำดับ
ที่มาข้อมูล