svasdssvasds

ญี่ปุ่นไฟเขียว! เตรียมกลับมาล่า "วาฬฟิน" เชิงพาณิชย์ ไม่สนใจ แม้ถูกค้านหนัก

ญี่ปุ่นไฟเขียว! เตรียมกลับมาล่า "วาฬฟิน" เชิงพาณิชย์ ไม่สนใจ แม้ถูกค้านหนัก

ธรรมเนียมการล่าวาฬในญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ล่าวาฬมาตั้งแต่ทศวรรษ 60s แต่ก็ถูกวิจารณ์เรื่อยมา จนหันไปล่าวาฬตัวเล็กแทน กระทั่งครั้งนี้ (ปี 2024) ไม่สนใจแล้ว พร้อมกลับมาล่าวาฬตัวใหญ่อีกครั้ง

SHORT CUT

  • ญี่ปุ่นไฟเขียว พร้อมกลับมาล่า "วาฬฟิน" เชิงพาณิชย์อีกครั้ง แม้นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม และอีกหลายประเทศออกเสียงคัดค้าน
  • โยชิมาสะ ฮายาชิ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นให้เหตุผลว่า เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องสืบทอดวัฒนธรรมอาหารแบบดั้งเดิมในญี่ปุ่นเอาไว้ 
  • สำนักงานประมงของญี่ปุ่นเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเรื่องแผนการบรรจุชื่อวาฬฟินลงในบัญชีวาฬที่สามารถล่าเพื่อการพาณิชย์ได้ จนถึงวันที่ 5 มิถุนายนนี้

ธรรมเนียมการล่าวาฬในญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ล่าวาฬมาตั้งแต่ทศวรรษ 60s แต่ก็ถูกวิจารณ์เรื่อยมา จนหันไปล่าวาฬตัวเล็กแทน กระทั่งครั้งนี้ (ปี 2024) ไม่สนใจแล้ว พร้อมกลับมาล่าวาฬตัวใหญ่อีกครั้ง

ญี่ปุ่น เตรียมล่า "วาฬฟิน" เชิงพาณิชย์ หลังออกจาก IWC

การล่าวาฬของประเทศญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมไม่เห็นด้วย และหลายชาติแสดงการคัดค้านมาโดยตลอด แต่นับจากปี 2019 ญี่ปุ่นก็กลับมาอนุญาตล่าวาฬเพื่อการพาณิชย์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นจำกัดการล่าวาฬอย่างถูกกฎหมายเอาไว้แค่เพียงวาฬขนาดเล็ก 3 สายพันธุ์เท่านั้น แต่ล่าสุด ญี่ปุ่นเตรียมนำรายชื่อ “วาฬฟิน” ซึ่งเป็นวาฬขนาดใหญ่ เข้าสู่บัญชีวาฬที่สามารถล่าเพื่อการพาณิชย์ได้

กรณีดังกล่าวสร้างความกังวลให้แก่หลายฝ่าย เพราะเกรงว่า ญี่ปุ่นกำลังจะยกระดับการล่าวาฬเพิ่มขึ้นหรือไม่

ญี่ปุ่นกลับมาล่าวาฬตัวใหญ่แล้ว Credit ภาพ Reuters

โฆษกรัฐบาล ยัน ทำเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมดั้งเดิมของประเทศ

โยชิมาสะ ฮายาชิ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันเรื่องนี้เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา และให้เหตุผลว่า เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องสืบทอดวัฒนธรรมอาหารแบบดั้งเดิมในญี่ปุ่นเอาไว้ และรัฐบาลญี่ปุ่นจะเดินหน้าโปรโมทการล่าวาฬ รวมถึงใช้มาตรการทางการทูตที่จำเป็น เนื่องจากมีหลายประเทศที่ไม่เห็นด้วย

โยชิมาสะ ฮายาชิ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงปมล่าวาฬตัวใหญ่ Credit ภาพ Reuters

คำถามสำคัญก็คือ ชาวญี่ปุ่นยังนิยมบริโภคเนื้อวาฬอยู่อีกหรือไม่?

วัฒนธรรมการบริโภคเนื้อวาฬของคนญี่ปุ่นต้องย้อนกลับไปในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากในช่วงเวลาขาดแคลนอาหาร เนื้อวาฬเป็นแหล่งโปรตีนราคาถูกที่ประชาชนสามารถซื้อหากันได้ โดยในปี 1962 ชาวญี่ปุ่นนิยมบริโภคเนื้อวาฬมากที่สุดคือราว 230,000 ตัน

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เนื้อสัตว์อื่นๆก็เข้ามาแทนที่ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชาวญี่ปุ่นบริโภคเนื้อวาฬแค่เพียงปีละ 2,000 ตันเท่านั้น และในปี 2023 ญี่ปุ่นจับวาฬมิงค์ทั้งหมด 294 ตัว

แต่เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นต้องการเพิ่มจำนวนการบริโภคเนื้อวาฬให้ได้เป็นราว 5,000 ตัน

กลุ่มกรีนพีซออกมาตำหนิการตัดสินใจดังกล่าวของญี่ปุ่นมาโดยตลอด เนลลี สเตเฟนสัน หัวหน้าทีมสอบสวนของกรีนพีซออสเตรเลียมองว่า รัฐบบาลญี่ปุ่นจะอ้างถึงเรื่องวัฒนธรรม เวลาพูดถึงการล่าวาฬเพื่อการพาณิชย์

แต่สิ่งที่ญี่ปุ่นทำมันต่างจากการล่าวาฬตามประเพณีของคนพื้นเมืองทั่วโลก เพราะชนพื้นเมืองจะสร้างสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม และประเพณี

ญี่ปุ่นล่าวาฬ ภาพเมื่อปี 2008 Credit ภาพ Australian Customs and Border Protection Service

เมื่อปี 2019 ญี่ปุ่นอนุญาตให้มีการล่าวาฬเพื่อการพาณิชย์อีกครั้งในน่านน้ำของญี่ปุ่นและเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หลังถอนตัวออกจากข้อตกลงของคณะกรรมการล่าวาฬระหว่างประเทศ หรือ IWC ในปี 2018  หลังเข้าร่วมเป็นสมาชิกในปี 1986

แต่เพียง 1 ปีถัดมา คือปี 1987 ญี่ปุ่นก็กลับมาล่าวาฬอีกครั้ง โดยอาศัยช่องโหว่วของกฎหมาย อ้างว่าล่าเพื่อการวิจัยแทน  

ทั้งนี้ สำนักงานประมงของญี่ปุ่นเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเรื่องแผนการบรรจุชื่อวาฬฟินลงในบัญชีวาฬที่สามารถล่าเพื่อการพาณิชย์ได้ จนถึงวันที่ 5 มิถุนายนนี้  และจะเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติในการประชุมครั้งถัดไป คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนมิถุนายน

 

ที่มา: Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related