ขยะเยอะนัก ห้ามคนมาเที่ยวไม่ให้ทิ้งไม่ได้ ก็ใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหา เอเวอเรสต์ประสบความสำเร็จ ใช้โดรนทุนแรงเข้าหน้าที่ ขนอุปกรณ์ขึ้นไป และเก็บขยะลงมา ลดความเสี่ยงได้
การท่องเที่ยวแบบเอ็กสตรีม เช่น การพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ เป็นกิจกรรมที่สร้างขยะมหาศาล ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เอาขึ้นไปได้ แต่เอาลงมาไม่ได้ เนื่องจากความท้าทายด้านสภาพอากาศ นั่นจึงทำให้ ทุกวันนี้ “ขยะ” เป็นภัยคุกคามธรรมชาติของเอเวอเรสต์ จนเอเวอเรสต์ได้ฉายาว่าเป็น”หลุมฝังกลบขยะที่สูงที่สุดในโลก”
ค่ายพักแรมเต็มไปด้วยเต็นท์ที่ขาดหลุดรุ่ย ห่ออาหาร ขวดน้ำดื่ม ขวดออกซิเจนเปล่า หรือแม้แต่อึของมนุษย์ ถูกทิ้งขว้างตามจุดต่าง ๆ ทั่วเอเวอเรสต์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าพื้นที่เกือบทุกสัปดาห์เพื่อเก็บขยะลงมาจัดการด้านล่าง
แต่อย่างไรก็ตาม เพราะเป็นพื้นที่ที่ท้าทาย จึงยากต่อการจัดเก็บ บางทีก็ทำให้เจ้าหน้าที่เสี่ยงไปด้วย หวั่นเกินอันตรายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ งั้นทำอย่างไรดี จึงจะสามารถช่วยให้การเก็บขยะลงมา หรือแม้กระทั่งการขนส่งอุปกรณ์บางอย่างขึ้นไปยังเอเวอเรสต์สะดวกขึ้น
บริษัท Airlift Technology ซึ่งมีฐานอยู่ในเนปาล จึงปิ๊งไอเดีย จับมือกับ DJI ผู้ผลิตโดรนสัญชาติจีน แก้ไขวิกฤตนี้ด้วยการใช้โดรนในการขนส่งสิ่งของ พร้อมทั้งทำหน้าที่ในการขนขยะลงมาให้เจ้าหน้าที่ด้านล่างจัดการต่อ
ในความเป็นจริงโครงการนี้เริ่มทดลองและประสบความสำเร็จแล้วในปี 2024 และเริ่มทำหน้าที่เก็บขยะเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยคาดว่าจะสามารถลำเลียงขยะลงมาได้มากกว่า 1,000 กิโลกรัม ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมปี 2025
กระบวนการตอนนี้คือใช้โดรน DJI FlyCart 30 ซึ่งสามารถบรรทุกสิ่งของได้มากถึง 15 กิโลกรัม โดรนจะทำหน้าที่ย้ายสิ่งของสำคัญ เช่น ถังออกซิเจน บันได เชือก จาก Everest Base Camp (สูงจากระดับน้ำทะเล 5,364 เมตร) ไปยัง Camp 1 (สูงกว่าระดับน้ำทะเล 6,065 เมตร) โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 นาที ภายใต้สภาพอากาศที่เหมาะสม
นอกจากนี้ โดรนได้ช่วยให้ไกด์ชาวเชอร์ปา ข้าม Khumbu Icefall ซึ่งเป็นช่องเขาที่เต็มไปด้วยรอยแยกและก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่อาจแตกออกได้ทุกเมื่อ ดังนั้น โดรนจะช่วยขนอุปกรณ์จำเป็นไปรออยู่ที่ปลายทาง ทำให้ไกด์ไม่ต้องขนของหนัก ทำให้การปีนป่ายคล่องตัวมากขึ้น
ในขณะที่โดรนยังคงทำหน้าที่ช่วยทำความสะอาดเอเวอเรสต์ Airlift Technology หวังว่า โดรนนี้จะเป็นเครื่องมือชิ้นใหม่ ช่วยให้เจ้าหน้าที่นำไปใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า กำจัดขยะจำนวนมหาศาลที่ตกค้างอยู่ตามค่ายต่าง ๆ ซึ่งบางพื้นที่มีการประเมินด้วยว่า อาจมีขยะบนภูเขามากถึง 50 ตัน โดยความพยายามก่อนหน้าที่ให้กองทัพเนปาลช่วยบิ๊กคลีนนิ่งในปี 2024 กำจัดขยะไปได้เพียง 11 ตัน ซึ่งก็ถือว่าเยอะมากแล้ว แต่นั่นยังไม่เพียงพอ เนื่องจากผู้คนทั่วโลกยังคงหลั่งไหล และกฎระเบียบที่ดูเหมือนผ่อนปรนมากขึ้น
ที่มาข้อมูล : Reuters