SIG จับมือ WWF ประเทศไทย ฟื้นฟูป่าไทย ให้กลับมากว้างใหญ่อีกครั้ง

เสือ สัตว์นักล่าที่น่าเกรงขาม แต่กลับหวาดกลัวและหิวโหย เพราะป่าหายไป บ้านของพวกมันกลายเป็นถนนที่มีรถราวิ่งวุ่นวาย กลายเป็นบ้านของมนุษย์ กลายเป็นพื้นที่การเกษตร ไม่เพียงแค่เสือ แต่ยังมีสัตว์ป่าอื่น ๆ ที่ใช้ชีวิตในป่าได้ไม่เต็มที่นัก เพราะป่าไทยไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนเก่า

เพราะอยากให้ป่ากลับมาสมบูรณ์และเชื่อมต่อเป็นป่าผืนใหญ่อีกครั้ง องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wide Fund For Nature (WWF)) สำนักงานใหญ่สวิตเซอร์แลนด์ และสำนักงานประเทศไทย จึงร่วมมือกับ เอสไอจี (SIG) ผู้นำโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ สานต่อโครงการเชื่อมป่าประเทศไทย ที่จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการป่าไม้และการเชื่อมโยงภูมิทัศน์ เทือกเขาตะนาวศรี พื้นที่ลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง และกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ป่าทั้งหมด 60,000 เฮกตาร์ หรือเทียบเท่า 375,000 ไร่ ดูแลป่าและความหลากหลายทางชีวภาพเป็นโครงการที่ 3 ต่อจากการดำเนินงานที่เม็กซิโก และมาเลเซีย ภายใต้โปรแกรม Forests Forward

นายวัชรพงศ์ อึงศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการเขตประเทศไทย ลาว พม่า และกัมพูชา เอสไอจี เล่าว่า “โครงการนี้จะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอสไอจี ในการดูแลป่าไม้อย่างมีความรับผิดชอบ และสอดคล้องกับเป้าหมายสำหรับการฟื้นฟูในอนาคต”

“แน่นอนว่า บรรจุภัณฑ์กระดาษที่บริษัทเป็นผู้ออกแบบและผลิตนั้น ผลิตมาจากเยื่อไม้ที่ได้มาจากป่าปลูกจากต่างประเทศ 100% ด้วยเหตุนี้จึงเห็นความสำคัญของป่าไม้ที่ให้ประโยชน์แก่เราหลายด้าน เพราะป่าไม้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทุกชีวิตบนโลก”

“ป่าไม้ของประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายทางชีวภาพอินโด-เมียนมาร์ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ป่าไม้ผืนนี้เป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึง เสือลายเมฆ เสือโคร่ง ช้างเอเชีย และกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งหลายชนิดกำลังตกอยู่ในอันตราย จากการตัดไม้ทำลายป่าและการขยายพื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์”

"กล่องนม หรือบรรจุภัณฑ์กระดาษของเอสไอจี ตั้งแต่ปีพ.ศ.2564 ได้จัดหากระดาษจากป่าไม้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรพิทักษ์ป่าไม้ (FSC-Certified) เท่านั้น ซึ่งรับประกันได้ว่ามีมาตรฐานขั้นสูงในการจัดการป่าไม้อย่างมีความรับผิดชอบ ผมมองว่า ป่า ยังเชื่อมต่อกับอีกหลายอย่างมาก เช่น แม่น้ำ สัตว์ป่า และชุมชนบริเวณนั้น"

ดังนั้นความมุ่งมั่นของโครงการนี้ คือ การฟื้นฟู ปกป้อง และเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ไทยให้ได้ 650,000 เฮกตาร์ หรือราว 4.062 ล้านไร่ ภายในปี 2573 สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการกลับมาของสัตว์ใหญ่ การปรับปรุงความเชื่อมโยงของที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยให้ช้างกระจายตัวในอุทยานฯมากขึ้น การฟื้นฟูป่าไม้บริเวณแหล่งน้ำ การกำหนดพื้นที่คุ้มครอง การรักษาสิทธิการใช้ที่ดินชุมชน และการส่งเสริมวนเกษตรและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

รัฐพล พิทักษ์เทพสมบัติ รองผู้อำนวยการฝ่ายอนุรักษ์ และผู้อำนวยการส่วนงานกลุ่มป่าไม้ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF Thailand) เผยว่า เสือโคร่งหนึ่งตัวใช้อาณาบริเวณค่อนข้างเยอะ ในอดีต ประเทศไทยมีเสือโคร่งอยู่เยอะ แต่ช่วงสักประมาณ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ประชากรเสือโคร่งลดลง จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การล่า และเรื่องของระบบนิเวศป่าที่หายไป รวมถึงอาหารของพวกมันด้วย เสือกินสัตว์จำพวกมีกีบ เมื่อป่าหมด อาหารของเขาก็หมดลงด้วย ดังนั้น ความร่วมมือในการฟื้นฟูครั้งนี้ จะเป็นการช่วยสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศที่เหมาะสมต่อสัตว์ป่ามากที่สุด

และโครงการนี้ จะช่วยสนับสนุนความแข็งแรงทั้ง ภาครัฐ เอกชน และชุมชน ในการบริหารจัดการป่าอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะปัจจุบันมีสถานการณ์คุกคามเยอะมาก ยกตัวอย่าง ไฟป่าทางภาคเหนือนี่หนักเลย เมื่อป่าไหม้ ไม่มีอะไรเหลือ เสือก็ไม่อยู่ ช้างไม่อยู่ มาเจอบ้านคนไปอีกก็กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่าแทน

อย่างไรก็ตาม เรื่องของการฟื้นฟูป่าไทยให้กว้างขึ้น เพื่อรองรับประชากรสัตว์ป่าให้กลับมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อมของเอสไอจี นอกจากโครงการเพิ่มป่า (Forest+) ยังมีเป้าหมายลดคาร์บอนจากกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่ (Climate+) เป้าหมายที่จะผลิตบรรภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รีไซเคิลได้ง่ายขึ้น (Resource+) เป็นต้น