
SHORT CUT
ในงาน Green Hug, เชฟอิน, โคคา-โคล่า และ Trash Lucky ร่วมแชร์วิธีเพิ่มกำไรด้วยการลดของเหลือทิ้ง ตั้งแต่การสั่งวัตถุดิบตามยอดจอง ไปจนถึงการคัดแยกบรรจุภัณฑ์เพื่อรีไซเคิลอย่างถูกวิธี
ในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการรักษ์โลกมากขึ้น การจัดการวัตถุดิบและของเหลือทิ้ง (Food Waste) จึงไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป แต่ยังเป็น กลยุทธ์สำคัญในการสร้างผลกำไร ให้กับธุรกิจอาหารและครัวเรือนด้วย
ประเด็นเรื่องการจัดการวัตถุดิบเพื่อความยั่งยืนนี้ ถูกนำมาเสวนาและแบ่งปันแนวทางปฏิบัติจริงจากผู้ประกอบการและภาคเอกชนที่งาน “Green Hug ตลาดนัดรักษ์โลก” เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในเวทีเสวนา "กินแบบใดช่วยโลก" ซึ่งได้เผยให้เห็นวิธีการที่ชาญฉลาดในการลดของเหลือทิ้งและสร้าง "ขยะที่สะอาด" เพื่อส่งต่อสู่กระบวนการรีไซเคิล
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องคิด โดยเฉพาะร้านอาหารนั่นคือเรื่อง กำไร ซึ่งเชฟอินมองว่าการที่จะมีกำไรนั้นสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายวิธี อย่างแรกคือการตั้งราคาให้คุ้มค่ากับต้นทุน แต่กำไรอีกทางที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการบริหารจัดการวัตถุดิบ
จุดเริ่มต้นที่ทำให้เชฟอินเห็นปัญหาเรื่องการจัดการวัตถุดิบคือตอนเปิดร้านขนมหวาน เชฟอินเล่าว่าผลไม้สดที่ซื้อมานั้น 100% เสียและเหลือทิ้งไปแล้ว 10% เมื่อเปิดครัวบ้านอินจึงต้องการแก้โจทย์เหล่านี้
วิธีแก้คือให้ลูกค้าที่จะมารับประทานอาหารที่ครัวบ้านอินต้องจองมาก่อน เพื่อที่ทางร้านจะออเดอร์วัตถุดิบมาจากระนองตามจำนวนที่ลูกค้าบริโภค ประโยชน์ข้อแรกคือไม่มีวัตถุดิบเหลือ แถมรับประกันความสด
“สมมติปลา 1 ตัว เรานำเนื้อปลามาแล่เป็นชิ้นแล้วไปใช้กับต้มหรือแกง ส่วนที่เป็นกระดูกหรือก้างก็นำไปทำเป็นน้ำสต็อกไว้ใช้ในร้าน ส่วนที่ยังเหลือก็จะไปใส่เครื่องทำปุ๋ย”
อีกประเด็นสำคัญที่เชฟอินอยากแชร์ต่อถึงผู้ประกอบการร้านอาหารคือ ถ้าจัดการวัตถุดิบต้นน้ำได้ สิ่งที่จะเหลือคือกำไร แล้วกำไรส่วนนี้ก็จะส่งต่อไปดูแลทีมงานได้ เอาไปจัดการระบบในร้าน หรือสวัสดิการอื่น ๆ ให้กับลูกค้า
“เมื่อเราช่วยโลก เราก็จะมีเงินเหลือมากขึ้น พอเหลือมากขึ้นเราก็กระจายรายได้กลับไปสู่ทีมเรา และเมื่อทุกคนแฮปปี้ เขาก็จะพอใจที่จะทำสิ่งเหล่านี้ต่อไป”
บนเวทีเดียวกันนั้น ศรุต วิทยารุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ การสื่อสาร และความยั่งยืน บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกมาแชร์ว่าการบริหารจัดการไม่ให้เกิดขยะนั้น เริ่มง่าย ๆ ด้วยการเช็กให้ชัวร์ก่อนทิ้ง
กล่าวคือต้องมั่นใจว่า “บรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว” ไม่รวมกับขยะสดหรือเศษอาหาร เพื่อให้เป็นขยะที่สะอาด และบรรจุภัณฑ์เหล่านั้นจะสามารถนำไปรีไซเคิลใหม่ได้
อย่างไรก็ตามหากนำไปรีไซเคิลผ่านโครงการ "โค้ก ชวนแยก แลก ลุ้น โชค" จะดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะได้ลุ้นรางวัลใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถ iPhone เป็นต้น
ณัฐภัค อติชาตการ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แทรชลัคกี้ จำกัด ได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการคัดแยกขยะที่ประสบความสำเร็จว่าควรเริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด
ณัฐภัคชี้ว่า การพิจารณาและจัดการกับบรรจุภัณฑ์ที่เราใช้เป็นประจำทุกวันถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ เมื่อผู้คนคุ้นชินกับการคัดแยกขยะในส่วนนี้แล้ว มันจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ยากและนำไปสู่ความต้องการที่จะศึกษาและลงมือทำเพิ่มเติมในเรื่องสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ต่อไป
"เราเริ่มจากการคิดก่อนว่าเราใช้บรรจุภัณฑ์อะไรมากที่สุด เมื่อเคยชินจะเห็นว่าไม่ยากอะไร และทำให้อยากไปศึกษาเพิ่มเติม"
แนวคิดนี้เป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเริ่มต้นการคัดแยกขยะอย่างง่ายดายในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว