โบท็อกลดกราม ฉีดกี่ยูนิต? หน้าจึงดูเป็นธรรมชาติไม่แข็งตึงและเป็นก้อน

สำหรับหนุ่มสาวปัจจุบันที่ต้องการแก้ไขหรือปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับมากขึ้น จึงเลือกการใช้โบท็อกซ์ลดกรามเป็นตัวเลือกแรกที่จะทำ เนื่องจากการฉีดโบท็อกซ์จะทำให้เห็นผลได้ชัดเจน ตอบโจทย์โครงหน้าของคนเอเชียทั่วไปที่ส่วนมากไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแค่โบท็อกรามก็ช่วยได้ แต่ก็อาจมีบางคนที่เคยผิดหวังกับการฉีดโบท็อกลดกราม เพราะเจอหมอที่ไม่มีประสบการณ์หรือโบท็อกซ์ปลอม ซึ่งทำให้มีผลข้างเคียงตามมา

โบท็อกซ์ลดกรามช่วยอะไรบ้าง

การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามจะช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของผู้เข้ารับบริการด้วย เพราะโบท็อกซ์จะใช้ได้กับกล้ามเนื้อ จึงต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนประเมินหาจุดบกพร่อง ว่ามาจากกล้ามเนื้อ กระดูก หรือส่วนไหนของใบหน้า แพทย์จะได้แนะทำการทำอย่างเหมาะสม

โบท็อกซ์ลดกรามอย่างเดียวหน้าเรียวจริงไหม

การฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้เป็นเพียงการปรับรูปหน้าให้หน้าเรียวเท่านั้น แต่จะขึ้นอยู่กับผู้เข้ารับบริการว่าแพทย์จะแนะนำให้แก้ไข้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง หลายๆเคสจะใช้การโบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม รวมถึงการฉีดเมโสแฟตร่วมกันเพื่อให้ผลลัพธ์ปรับรูปหน้าได้เรียวยิ่งขึ้น ตัวอย่างหัตถการที่ช่วยให้ใบหน้าเรียว ดังนี้

1. ฟิลเลอร์คาง : กรณีที่มีคางสั้นหรือคางตัดหากเปรียบเทียบกับสัดส่วนของใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์จะทำให้หน้าเรียวขึ้น
2. โบท็อกซ์ลดกราม : สำหรับคนกัดฟันหรือกรามใหญ่ เวลาจับจะมีกล้ามเนื้อที่กรามเยอะ วิธีจะช่วยลดขนาดกรามให้เล็กลงได้ ฉีดกรามสามารถฉีดได้ข้างละ 30-40 ยูนิต และสามารถฉีดเติมได้เรื่อยๆในระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ
3. ฟิลเลอร์ใต้ตา : กรณีที่มีร่องลึกตาลึกจะทำให้หน้าดูสั้น ไม่กระชับ หน้าดูโทรม หลังฉีดจะช่วยเบลอสายตาให้ใบหน้าดูไม่คล้อยได้
4. ร้อยไหม : วิธีแก้ในกรณีที่แก้มมุมปากและแก้มที่เกิดการหย่อนคล้อยให้ดูกระชับขึ้น เป็นหัตถการที่ต้องพักฟื้นเพราะหลังทำหน้าจะบวมช้ำ 2-3วัน
5. โบท็อกลิฟกรอบหน้า : เป็นเทคนิคการฉีดโบท็อกเพื่อกระชับผิวบริเวณกราม หน้าแก้มที่คล้อยให้ดูกระชับขึ้นได้ สามารถฉีดไปพร้อมๆกับการโบท็อกลดกรามได้เลย

ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าเรียวได้จริงไหม

การฉีดโบท็อกซ์ช่วยให้หน้าเรียวได้จริง แต่โบท็อกซ์จะใช้ได้ผลกับกล้ามเนื้อเท่านั้น หากเป็นส่วนอื่นให้แพทย์ประเมินก่อนว่าควรจะแก้ไขอย่างไร ปัญหาอาจมาจาก กระดูกหรือไขมัน ซึ่งโบท็อกซ์ไม่สามารถแก้ไขได้

รีวิวผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกลดกราม

ผลลัพธ์ที่ได้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละบุคคลขึ้นกับจำนวนยูนิตที่ใช้และความต่อเนื่องในการฉีด ยิ่งฉีดต่อเนื่องก็จะก็ยิ่งทำให้กรามเล็กลงและครั้งต่อๆไปก็จะใช้จำนวนยูนิตน้อยลงด้วย

ใครที่เหมาะกับโบท็อกซ์ลดกราม

การฉีดโบท็อกลดกรามเหมาะกับคนที่มีปัญหากรามใหญ่ สามารถฉีดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ใช้ทำการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่กรณีที่มีปัญหาของกรามใหญ่มีมาจากกระดูกกรามจะไม่สามารถฉีดโบท็อกซ์ลดกรามได้

ร้อยไหมต่างจากโบท็อกลดกรามอย่างไร

ไม่ว่าจะเป็นการร้อยไหมหรือโบท็อกซ์ลดกราม ก็สามารถช่วยทำให้หน้าเรียวได้ทั้งสองอย่าง แต่ขึ้นอยู่กับคนไข้ว่ามีปัญหาทางด้านใด

อย่างที่บอกข้างต้นโบท็อกซ์จะช่วยลดกร้ามเนื้อกรามให้มีขนาดที่เล็กลง ส่วนการร้อยไหมจะเป็นการยกกระชับส่วนที่หย่อนคล้อยให้กลับมากระชับ แต่การทำทั้งสองอย่างนี้ไม่จำเป็นต้องเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งแต่สามารถทำควบคู่ไปพร้อมกันได้

ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามเจ็บมากไหม

การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามไม่ได้เจ็บอย่างที่ทุกคนคิด เพราะก่อนทำหัตถกรรมจะมีการประคบเย็น เพื่อเป็นการลดความเจ็บจากเข็ม แต่อาจรู้สึกขณะเจ็บเล็กน้อยขณะที่ยากำลังเดิน หากใครที่กลัวเข็มมากสามารถให้คลินิกแปะยาชาได้

ปากเบี้ยวจากการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามแล้วทำให้ปากเบี้ยว เกิดจากสาเหตุจากการฉีดโบท็อกซ์ไปโดนส่วนของกล้ามเนื้อบริเวณมุมปาก Risorius หรือ Zygomatic ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการขยับมุมปาก และเมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปแล้ว  โบท็อกซ์จึงออกฤทธิ์ จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้ลดการทำงาน ทำให้ปากสองข้างเบี้ยวผิดรูปได้

โบท็อกซ์ลดกราม  อเมริกา หรือ เกาหลี ดีกว่ากัน

โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขั้นตอนของการทำตัวยาที่บริสุทธิ์ ชนิดของตัวยา และความคงทนในการเก็บรักษา แพทย์จะเป็นผู้ประเมินเองว่าควรใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนเพื่อความเหมาะสม

ข้อดีของโบท็อกซ์อเมริกา (Allergan)

1. ช่วยลดการดื้อยาเพราะมีความบริสุทธิ์ที่สูง
2. มีความมันยำเพราะการทำงานกระจายตัวในวงแคบ
3. อยู่ได้นาน 10-20%

ข้อเสียของโบท็อกซ์อเมริกา

1. มีราคาค่อนข้างสูง

ข้อดีของโบท็อกซ์เกาหลี

1. ราคาไม่สูงมาก
2. มีการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว
3. ทำให้หน้าใส ลดริ้วรอย

ทั้งสองแบรนด์จากสองประเทศสามารถฉีดได้เช่นเดียวกัน สำหรับโบท็อกเกาหลีเป็นที่นิยมมากว่าเพราะราคาไม่สูงมาก และออกฤทธิ์ได้เร็ว ทั้งนี้ขึ้นกับงบประมาณของผู้รับบริการและคำแนะนำของแพทย์ที่ฉีดได้เลย

ดูอย่างไรว่าโบท็อกซ์ของแท้หรือของปลอม

1. ทุกครั้งของการฉีดโบท็อกควรให้แพทย์แกะกล่องเพื่อเปิดขวดใหม่หากเราทำการฉีดคนเดียว 100 ยูนิต หากไม่ครบควรหาเพื่อนไปหารให้ครบ เพื่อที่จะได้เห็นตอนแพทย์เปิดขวดใหม่ เพื่อความมั่นใจของเราด้วย
2. โบท็อกซ์ทุกยี่ห้อจะมาในรูปแบบผลึกแห้งสีขาว แพทย์จะต้องใส่น้ำเกลือเพื่อผสมตัวยา ควรให้แพทย์ผสมต่อหน้าผู้เข้ารับบริการ
3. บางสถานบริการไม่สามารถให้ผู้เข้ารับบริการดูตอนผสมโบท็อกได้ อาจจะอ้างว่าป้องกันการติดเชื้อ
4. หากเป็นไปได้หลังฉีดควรของกล่องและขวดหรือถ่ายรูปโบท็อกซ์กลับบ้านด้วย หรือถ่ายรูปไว้ตรวจสอบ

เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสี่ยงเจอโบท็อกปลอม ฉีดแล้วหน้าเบี้ยว รวมถึงฉีดแล้วไม่เห็นผลเท่าที่ควาร ส่ิงที่ต้องคำนึงเป็นหลักในการตัดสินใจคือเลือกสถานพยาบาลที่มีชื่อเสียงมีแพทย์ประจำคลินิกสามารถให้คำปรึกษาก่อนตัดสินใจได้รวมถึงมีการติดตามผลหลังการฉีดอย่างต่อเนื่อง