
งานประกาศรางวัล มิชลิน ไกด์ 2026 ครบรอบ 125 ปี ไทยจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 สะท้อนศักยภาพประเทศด้านอาหารอย่างแท้จริง “World-class Gastronomy Destination” เมืองท่องเที่ยวที่ใคร ๆ ก็อยากบินมาตามล่ารสชาติที่หาที่ไหนไม่เหมือน
ในวาระครบรอบ 125 ปีของ ‘มิชลิน ไกด์’ และเป็นปีที่ประเทศไทยจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 9 ภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งคือ บทบาทสำคัญของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ขับเคลื่อนให้ “อาหารไทย” กลายเป็นหนึ่งในพลังดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศ
ททท. ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนงานประกาศรางวัลเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็น “World-class Gastronomy Destination” เมืองท่องเที่ยวที่ใคร ๆ ก็อยากบินมาตามล่ารสชาติที่หาที่ไหนไม่เหมือน
มุมมองจากผู้ตรวจสอบระดับโลก สอดคล้องกับเป้าหมาย ททท. ที่ต้องการยกระดับประเทศด้วยวัฒนธรรมอาหาร มร.ปูลเล็นเนค ผู้กำกับอนุกรมวิธาน ‘มิชลิน ไกด์’ เปิดเผยทิศทางที่กำลังขับเคลื่อนวงการอาหารไทย ซึ่งสอดรับกับภาพใหญ่ของททท. ที่ต้องการสร้าง “การท่องเที่ยวเชิงคุณค่า” (Value-based Tourism)
1) เชฟต่างชาติหลั่งไหลเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในไทย
นำความคิดสร้างสรรค์ เทคนิคสากล และมุมมองใหม่ ๆ มาเสริมพลังให้วงการอาหารไทยยิ่งคึกคัก พร้อมผสานวัตถุดิบและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างเคารพรากเหง้า นี่คือภาพที่สะท้อนว่า ประเทศไทยกลายเป็นเวทีของเชฟโลกอย่างแท้จริง ซึ่งททท. ส่งเสริมผ่านภาพลักษณ์ด้าน Food Tourism มาอย่างต่อเนื่อง
2) เชฟไทยยกระดับอาหารท้องถิ่นขึ้นสู่เวทีโลก
ผู้ตรวจสอบพบว่าเชฟไทยกำลัง “ขับเน้น” เอกลักษณ์ภูมิภาคให้โดดเด่นขึ้นอย่างมีชั้นเชิง นี่คือหัวใจสำคัญที่ททท. ตั้งใจผลักดันมาตลอด นำเสนอ “Local Charm” ให้โลกได้เห็น
3) ความร่วมมือระหว่างเชฟ-เกษตรกรท้องถิ่นเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ร้านอาหารจำนวนมากหันมาใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล สนับสนุนผู้ผลิตรายย่อย เกษตรกร และชุมชน นี่คือแนวคิด “กินเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” ที่ททท. ส่งเสริมอย่างจริงจังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
4) เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์จากสมุนไพร-ดอกไม้ไทยมาแรง
เป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าประสบการณ์อาหารไทยกำลังเติบโตในมิติใหม่ — สะท้อนภูมิปัญญาพื้นถิ่นที่ถูกนำมาตีความได้ทันสมัย ททท. เองมีบทบาทผลักดันการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพควบคู่ไปด้วย
5) เพิ่มขึ้นของร้านสไตล์ Casual, Chef’s Counter และเมนูเน้นพืชเป็นหลัก
สอดคล้องกับการเปลี่ยนพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่มองหาความยั่งยืน ความจริงใจ และตัวตนของเชฟมากขึ้นเรื่อย ๆ
หนึ่งในไฮไลท์ปีนี้ คือ รางวัล MICHELIN Guide Service Award ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อเชิดชู “คนตัวเล็กแต่สำคัญมาก” ของวงการอาหาร ผู้สร้างประสบการณ์ที่ประทับใจให้ผู้มาเยือนจากทั่วโลก
ผู้ได้รับรางวัลคือ อาร์เซน บราเฮจ (Arsen Brahaj) ผู้จัดการร้าน Aulis ร้าน ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ จังหวัดพังงาเขาเป็นชาวแอลเบเนีย พูดได้ 4 ภาษา เคยทำงานในร้านอาหารดาวมิชลินของเชฟไซมอน โรแกน ก่อนมาดูแลการบริการที่ Aulis โดยเน้นเครื่องดื่มและ pairing ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น
ททท. ตั้งใจให้รางวัลนี้เป็นสัญลักษณ์ของการยกระดับ “บริการไทย” สู่ระดับสากล เพราะประสบการณ์ที่ดีคือเหตุผลของการกลับมาเที่ยวซ้ำ
สรุปภาพรวมรางวัลจาก ‘มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย 2569’
ตัวเลขสะท้อนศักยภาพของประเทศไทยอย่างงดงาม ทั้งในด้านคุณภาพร้านอาหาร ความหลากหลายวัฒนธรรมอาหาร และความแข็งแรงของภูมิภาคต่าง ๆ
ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นทุกปีสะท้อนว่าไทยกำลังเติบโตเป็น “จุดหมายปลายทางด้านอาหารระดับโลก” อย่างแท้จริง
ทิศทางตามที่มิชลิน ไกด์ มองเห็น ตั้งแต่เชฟต่างชาติเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การเติบโตของเชฟไทยท้องถิ่น ความยั่งยืนในอาหาร ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์การบริการแบบมืออาชีพ ล้วนเป็นผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ททท. ไม่ได้เพียงสนับสนุนงานประกาศรางวัล แต่กำลัง ยกระดับ Soft Power ของประเทศ ผ่าน “อาหาร” อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องเพราะในวันที่โลกท่องเที่ยวแข่งขันดุเดือด ประเทศไทยไม่ได้ชนะเพราะมีแค่สถานที่สวยงาม แต่ชนะเพราะเรามี “รสชาติ วัฒนธรรม และหัวใจของคนไทย” ซึ่งวันนี้ถูกยืนยันอีกครั้งบนเวทีระดับโลกอย่าง ‘มิชลิน ไกด์’