หาคู่ในวัด เทรนด์ใหม่เกาหลีใต้ เพราะวัดต้องตามทันสังคมยุคใหม่
“ศาสนาพุทธในมุมใหม่ พระเกาลีใต้ผลักดัน ‘I Am Jeollo’ โครงการหาคู่ในวัด ที่กำลังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เรื่องความรัก”
SHORT CUT
- พระมโยจังเชื่อว่า ความรักที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์ แต่คือการยอมรับข้อบกพร่องและเดินไปด้วยกัน ความสัมพันธ์จึงงดงามเพราะความไม่สมบูรณ์ ไม่ใช่เพราะความไร้ที่ติ
- โครงการ “I Am Jeollo” เน้นการสร้างความสัมพันธ์ผ่านการใช้เวลาและทำกิจกรรมร่วมกันในบรรยากาศสงบ แทนการเทศน์ยัดเยียด ซึ่งช่วยให้คนรุ่นใหม่เรียนรู้การเคารพและเข้าใจกันอย่างเป็นธรรมชาติ
- พระมโยจังผลักดันแนวคิด “ฮิปพุทธ” เช่นการแจกอาหารกลางวันฟรีดึงคนรุ่นใหม่เข้าวัด และย้ำว่าพุทธศาสนาควรพัฒนาไปพร้อมกับผู้คน เหมือนที่พระพุทธเจ้าเคยเดินเคียงข้างประชาชน
“ศาสนาพุทธในมุมใหม่ พระเกาลีใต้ผลักดัน ‘I Am Jeollo’ โครงการหาคู่ในวัด ที่กำลังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เรื่องความรัก”
หลายคนเติบโตมากับความเชื่อว่า “ความรักต้องดีพร้อม” คู่รักต้องตรงสเปก หน้าที่การงานต้องพร้อม และทุกอย่างต้องลงตัวพอดี แต่ในความจริงแล้ว การตามหาความรักที่ไร้ที่ติ อาจทำให้เราพลาดช่วงเวลาสำคัญ หรือมองไม่เห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายและจริงใจ
พระมโยจัง(Myojang) พระนักบวชชาวเกาหลีผู้ริเริ่ม “I Am Jeollo” โครงการหาคู่ในวัดกลับมองต่างออกไป เขาเชื่อว่า ความรักที่ไม่สมบูรณ์แบบต่างหาก คือความรักที่งดงามที่สุด เพราะหัวใจของความสัมพันธ์ ไม่ได้อยู่ที่ความเพอร์เฟกต์ แต่คือการยอมรับในข้อบกพร่องและก้าวเดินไปด้วยกัน
“หาคู่ในวัด” เทรนด์ใหม่ในเกาหลีใต้
โครงการ “I Am Jeollo” เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2013 ในรูปแบบการเข้าวัดทำกิจกรรมร่วมกัน ก่อนจะถูกรีแบรนด์ใหม่เป็นการหาคู่ในวัดในปี 2023 (ได้รับแรงบันดาลใจจากรายการเรียลิตี้โชว์ “I Am Solo”) และก็ฮิตติดลมบนทันที โดยรุ่นล่าสุดที่จัดที่วัดซินฮึงซา เมืองซกโช มีผู้สมัครถึง 2,620 คน แต่เปิดรับเพียง 24 ที่นั่งเท่านั้น
ผู้เข้าร่วมต้องเข้าวัดพักผ่อน ทำกิจกรรมร่วมกันในพื้นที่สงบ เคารพกัน และเรียนรู้กันอย่างเป็นธรรมชาติซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ผ่านประสบการณ์ร่วมแทนการเน้นคำสอนเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นแนวทางของพระมโยจังที่ช่วยดึงดูดความสนใจจากคนรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
“ศาสนาต้องพัฒนาไปพร้อมสังคม”
พระมโยจังยอมรับว่า เคยพยายาม “สอนมากไป” ทั้งบรรยายธรรมเรื่องความรักยาว ๆ และบังคับให้ผู้เข้าร่วมตื่นเช้ามากราบ 108 ครั้ง แต่ในที่สุดก็ตระหนักว่า สิ่งที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จไม่ใช่คำสอนที่ยัดเยียด แต่คือ “ประสบการณ์จริง” ที่ผู้เข้าร่วมได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
สำหรับพระมโยจัง คู่ชีวิตไม่ใช่แค่คนรัก แต่คือ “เพื่อนทางจิตวิญญาณ” ที่เดินไปตามเส้นทางแห่งสัจธรรมร่วมกัน เขาจึงแนะนำว่าอย่าจำกัดตัวเองแค่การมองหาความสัมพันธ์แบบโรแมนติก เพราะเพื่อนที่ดี ครูที่ปรึกษา หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงาน ก็อาจกลายเป็นคู่ชีวิตที่ดีได้เช่นกัน
เขากล่าว่า “คนวัย 20 ปลาย ๆ ถึง 30 ต้น ๆ มักเปิดใจยอมรับความไม่สมบูรณ์ของกันและกันได้ง่าย จึงพร้อมจะวางแผนอนาคตร่วมกัน ขณะที่เมื่ออายุมากขึ้น แม้จะมีความมั่นคงในหน้าที่การงาน แต่กลับหาคู่ได้ยากขึ้น เพราะมาตรฐานสูงขึ้นและเปิดใจน้อยลง”
ปัจจุบัน พระมโยจังได้รับตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานวางแผนของคณะสงฆ์ใหญ่เกาหลี (Jogye Order) และยังคงผลักดันแนวคิด “พุทธศาสนาทันสมัย” หรือที่หลายคนเรียกว่า “ฮิปพุทธ” เช่นโครงการ “Youth Meal Power” แจกอาหารกลางวันฟรีเพื่อดึงคนรุ่นใหม่เข้าวัด
พระมโยจังเชื่อว่า “พุทธศาสนาควรพัฒนาไปพร้อมกับสังคม เหมือนที่พระพุทธเจ้าเคยเดินเคียงข้างประชาชน วัดก็ต้องเดินไปพร้อมกับผู้คนเช่นกันพระมโยจังกล่าว
