SHORT CUT
Starbucks เกาหลีใต้ติดป้ายขอความร่วมมือลูกค้า หลังพบพฤติกรรมพกคอมตั้งโต๊ะ-ฉากกั้น มาทำงานจนเกินเหตุ สร้างความไม่เท่าเทียมในการใช้พื้นที่ร่วมกันในร้านกาแฟ
Starbucks เกาหลีใต้ทุกสาขาขึ้นป้ายขอความร่วมมือลูกค้า ไม่เปลี่ยนพื้นที่ในร้านเป็น 'ออฟฟิศส่วนตัว' บางคนพกคอมตั้งโต๊ะ เครื่องปริ้นท์ และปลั๊กไฟมาเอง แถมมีฉากกั้นเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัว จนลูกค้าคนอื่นไม่มีที่นั่ง
ก็เราอยู่ในยุคที่ Work From Anywhere แล้วนี่นา แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ใช้ร้านกาแฟเป็นสถานที่ทำงาน หนึ่งในนั้นคือร้าน Starbucks ที่มีที่นั่งสะดวกสบาย และมีปลั๊กให้พร้อมใช้งาน เผอิญว่าตอนนี้ แดนกิมจิกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้อยู่
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้าน Starbucks ทุกสาขาในเกาหลีใต้ ติดป้ายประกาศขอความร่วมมือลูกค้า ไม่นำสิ่งของต่าง ๆ เข้ามาในร้าน เช่น โต๊ะทำงาน เครื่องปริ้นท์ ปลั๊กไฟ รวมถึงฉากกั้นโต๊ะทำงาน หรือแม้แต่การวางของเอาไว้จองที่ แม้ตัวจะไม่อยู่ก็ตาม
เดิมที กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของ Starbucks คือคำที่ชาวเกาหลีใต้เรียกกันว่า cagongjok ซึ่งเป็นคำผสมของภาษาเกาหลีที่แปลว่า ‘คาเฟ่’ และ ‘นักอ่าน’ หรือก็คือคนที่ทำงานหรือคนที่ใช้เวลาอ่านหนังสือในร้านกาแฟเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ก็จะพกหนังสือมา อย่างมากก็ iPad หรือไม่ก็โน๊ตบุ๊ค แต่อย่างที่บอกไป ตอนนี้ Starbucks บางสาขาในเกาหลีเจอลูกค้าที่พกคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ มีปลั๊กไฟมาพร้อม บางรายถึงขั้นนำฉากกั้น เพื่อสร้าง space ส่วนตัวในบริเวณร้าน
ประเด็นก็คือ ข้าวของเหล่านี้ บางครั้งถูกนำไปวางไว้ที่โต๊ะอีกตัว หรือเก้าอี้อีกตัว ทำให้ลูกค้ารายอื่น ๆ ไม่สามารถนั่งได้ และอีกเคสที่เจอบ่อยคือ มีการนำข้าวของมาวางจองพื้นที่ไว้ก่อน โดยเจ้าตัวออกไปทำธุระข้างนอก ก่อนกลับมาที่เดิมและให้เหตุผลว่าได้จองที่ไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม การออกประกาศขอความร่วมมือในครั้งนี้ ทาง Starbucks ชี้แจงว่า การตัดสินใจครั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้รับความสะดวกสบายอย่างทั่วถึงกัน และป้องกันข้าวของหาย หรือลืมทิ้งไว้ในร้านด้วย
ปัจจุบัน ผู้คนใช้เวลาทำงานในร้านกาแฟมากขึ้น นั่นทำให้ร้านกาแฟในเกาหลีใต้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยสำนักงานสถิติแห่งเกาหลีใต้ระบุว่า ในปี 2558 มีร้านกาแฟทั่วประเทศเพียง 51,500 แห่ง ในปี 2567 มีมากกว่า 100,000 แห่ง
ทั้งนี้ Starbucks ยืนยันว่าไม่ได้ห้่ามการใช้ Laptop หรือการนั่งทำงาน เพียงแต่ว่ากฎใหม่นี้ ได้ขอความร่วมมือไม่ให้เปลี่ยนร้านกาแฟที่ทุกคนมีสิทธิใช้บริการในร้านได้เท่าเทียมกัน กลายเป็นห้องทำงานส่วนตัว
คุณละคิดเห็นอย่างไร?
ที่มา: Business Insider
ข่าวที่เกี่ยวข้อง