ภาพยนตร์ไททานิคครบรอบ 25 ปี เพราะความทรงจำที่ดี ควรดูอีกครั้ง เติมใจให้เต็ม

ภาพยนตร์ไททานิค เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ...นับว่าเป็นปรากฏการณ์หนึ่งของโลก จากฝีมือของผู้กำกับเจมส์ คาเมร่อน ซึ่งกำลังมีผลงานใหม่ และทำรายได้สุดอลังการไม่แพ้กัน นั่นคือเรื่อง อวตาร 2 : Avatar: The Way of Water ที่กำลังฉายอยู่ในตอนนี้

...โดยการกลับมาฉายใหม่อีกครั้งของภาพยนตร์ไททานิค Titanic บนปฏิทินปี 2023 ถือเป็นโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปี ที่หนังเรื่องนี้ ผ่านวันผ่านเวลา บ่มเพาะคุณค่า ให้ยิ่งงดงามยิ่งขึ้น หลังจากที่หนังเรื่องนี้ ฉายรอบพรีเมียร์ไปครั้งแรก เมื่อ 19 ธ.ค. 1997 และเคยทำสถิติ ขึ้นแท่นหนังทำเงินสูงสุดของโลก 12 ปี 

ย้อนหลังกลับไป เมื่อ 25 ปีที่แล้ว สำหรับผู้คน Gen X,Gen Y บางส่วนอาจจะเคยมี "ประสบการณ์ร่วม" กับภาพยนตร์ไททานิค Titanic เรื่องนี้มาบ้าง ...อาจจะเคยดู อาจจะเคยได้ยิน อาจจะเคยผ่านตาในโรงภาพยนตร์  หรืออาจจะ "แค่" ดูผ่านทางช่องทางอื่นๆ ทางทีวี หรือ ผ่านจอมือถือ 

แต่อย่างไรก็ตาม ณ เข็มนาฬิกาเดินอยู่ตอนนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังกลับมาพร้อมๆกับเทคโนโลยีในการฉายภาพยนตร์ได้ ก้าวเดินไปข้างหน้า จากเมื่อ 2 ทศวรรษที่แล้วแบบก้าวกระโดด  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 109 ปีไททานิคล่ม : ตัวละครแห่งยุค"แจ็ค-โรส" มิตรภาพสวยงามในชีวิตจริง

• อ่าวมาหยา (อ่าวเดอะบีช) : ความสวยงามทะเลไทยที่ถูกถ่ายทอดผ่านหนัง The Beach

• 19 ธ.ค. 1997 : ไททานิค ฉายรอบพรีเมียร์ ขึ้นแท่นหนังทำเงินสูงสุดของโลก 12 ปี

สำหรับ ไททานิค ณ ปัจจุบัน กลับมาครั้งนี้ ด้วยความคมชัดเต็มตากว่าเดิม บนจอ IMAX With Laser 3D ผู้ชมที่เข้าไปดูไททานิค ณ วันนี้ จะได้เห็นความอลังการทุกสัดส่วนของเรือแห่งความฝัน  

ทุกคนจะได้เห็น ลีโอนาโด้ ดิคาปริโอ และเคต วินสเล็ต  ในบทบาทของ "แจ๊ค-โรส" กับการเป็นตำนานรักโรแมนติก พร้อมๆกับความฝัน ความทะเยอทะยานของหนัง เมื่อ 25 ปีที่แล้ว อีกทั้ง สเกลของหนัง ไททานิค ก็ควรค่าแก่การดูบนจอใหญ่เทียบไม่ได้เลยกับตอนที่ดูผ่านจอทีวี 

ในแง่ของคุณภาพและคุณค่า ภาพยนตร์ไททานิค Titanic เคยสร้างปรากฎการณ์ กวาดรางวัลออสการ์ ชนะเลิศ 11 สาขา มาแล้ว  ได้แก่ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม สาขาบันทึกเสียงยอดเยี่ยม สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยม สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขากำกับศิลป์ยอดเยี่ยม ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ น่าจะเป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพ ที่ทุกคนจะได้รับไปอิ่มเอมและเต็มอารมณ์

 

 

 

 

View this post on Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

A post shared by Titanic (@titanicmovie)

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังทำให้ เคต วินสเล็ต และ ลีโอนาโด้ ดิคาปริโอ ขึ้นแท่นกลายเป็นนักแสดงคู่ขวัญตลอดกาลอีกด้วย และในความน่ารักของทั้งคู่ ในตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ทั้ง 2 นักแสดง หลักจากจบงานภาพยนตร์ไททานิค แม้จะไม่ได้เป็นคู่รักกัน.. แต่ก็นับเป็นความสัมพันธ์ที่ "กาลเวลาฆ่าไม่ตาย" หากใครที่ได้ยินเรื่องราวของทั้ง 2 คนที่มีส่วนเกื้อหนุนกัน ก็คงจะได้รอยยิ้มให้กับชีวิตทุกครั้ง...

ส่วน เรื่องบทเพลงประกอบภาพยนตร์  เพลง My Heart Will Go On เพลง ธีม ภาพยนตร์ของ Titanic จากฝีมือการร้องทรงพลังแทรกซึมเข้าไปขั้วหัวใจ จากเซลีน ดิออน ที่ทำยอดขายได้กว่า 18 ล้านชุดจากซิงเกิลนี้เพลงเดียว และเป็นหนึ่งในซิลเกิลขายดีที่สุดตลอดกาล  ถูกจัดอันดับให้อยู่ในรายชื่อ เพลงแห่งศตวรรษโดยสมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงแห่งอเมริกา  และเพลงนี้ ได้กลายเป็นอีกหนึ่ง ป๊อปคัลเจอร์ MTV ยกให้ 'My Heart Will Go On' เป็นหนึ่งในเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุค 90ฯ ไปเลยทีเดียว 

เพียงเหตุผลเล็กๆ เท่านี้ ก็เพียงพอแล้ว ที่ เราทุกคนจะย้อนกลับไปดู ไททานิค ในโรงภาพยนตร์ (หรือใครที่ยังไม่เคยดูเรื่องนี้ ในโรง ก็ควรอย่างยิ่งที่จะรับ ประสบการณ์ Cinematic experience  หรือประสบการณ์การดูในโรงภาพยนตร์เรื่องนี้) อย่างแน่นอน 

ฉาก การล่มสลายของเรือไททานิค และฉากรักที่กลายเป็นตำนานระหว่าง แจ๊คกับโรส คู่ควรอย่างยิ่ง ต่อการเก็บความประทับใจแบบเต็มตาบนจอโรงหนัง ไม่ว่าจะเป็นการฉายแบบไหนก็ตาม 

...การกลับไปดู หนัง ไททานิค ซ้ำ มันจะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหน่ายแน่นอน แม้ว่าเรา จะรู้เรื่อง รู้เส้นเรื่อง มันดีอยู่แล้ว เพราะการกลับไปดูหนังซ้ำ ดูหนังเรื่องเดิมๆ  จะว่าไป มันไม่ใช่การทำ ซ้ำทำอีกครั้ง  มันก็ไม่เชิงว่าจะเป็นการ ‘ซ้ำ’ โดยสมบูรณ์แบบเดิมๆ เสียทีเดียว 

เพราะมันมีคำกล่าวว่า เราไม่เคยข้ามแม่น้ำสายเดิมสองครั้ง เมื่อเราข้ามครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อไปมันก็ไม่ใช่แม่น้ำเดิม ไม่ใช่ตัวเราคนเดิมอีกต่อไป และ การดู หนัง ไททานิคกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ไม่มีทางเหมือนเดิม...

 Credit Youtube  Major Group