svasdssvasds

How to เข้าวงการ Matcha แจกสูตรชงมัทฉะ ต้องซื้ออะไรบ้าง ราคาเท่าไร

How to เข้าวงการ Matcha แจกสูตรชงมัทฉะ ต้องซื้ออะไรบ้าง ราคาเท่าไร

วงการเครื่องดื่มในประเทศไทยได้เกิดปรากฏการณ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง นั่นคือ "มัทฉะฟีเวอร์" ที่ความนิยมในชาเขียวมัทฉะได้พุ่งทะยานขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

SHORT CUT

  • การเริ่มต้นชงมัทฉะที่บ้านทำได้ง่ายด้วยงบประมาณเริ่มต้นเพียง 300-500 บาทสำหรับชุดอุปกรณ์พื้นฐาน และหัวใจสำคัญคือการเลือกผงมัทฉะให้ถูกประเภท: "เกรดลาเต้" สำหรับชงกับนม และ "เกรดพิธี" สำหรับการดื่มด่ำรสชาติแท้ๆ
  • มัทฉะ โดดเด่นด้วยสาร L-theanine และคาเฟอีนที่ทำงานร่วมกัน ทำให้เกิด "พลังงานที่สงบนิ่ง" ช่วยให้มีสมาธิโดยไม่ใจสั่น พร้อมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ EGCG ที่สูงกว่าชาเขียวทั่วไป ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพและลดการอักเสบ
  • กระแส "มัทฉะฟีเวอร์" ในไทยสะท้อนเทรนด์สุขภาพทั่วโลก โดยตลาดกำลังขยายตัวจากเครื่องดื่มในคาเฟ่ไปสู่นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งเครื่องดื่มพร้อมดื่ม (RTD), อาหารเสริม, และสกินแคร์ ตอกย้ำว่า มัทฉะ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ไปแล้ว

วงการเครื่องดื่มในประเทศไทยได้เกิดปรากฏการณ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง นั่นคือ "มัทฉะฟีเวอร์" ที่ความนิยมในชาเขียวมัทฉะได้พุ่งทะยานขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

จากเครื่องดื่มที่เคยจำกัดอยู่ในแวดวงผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นหรือกลุ่มคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ

ปัจจุบัน 'มัทฉะ' ได้กลายเป็นกระแสหลักที่แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวันของผู้คนในวงกว้าง

How to เข้าวงการ Matcha แจกสูตรชงมัทฉะ ต้องซื้ออะไรบ้าง ราคาเท่าไร

คนไทยแห่โพสต์เครื่องดื่มมัทฉะ '5.2 ล้านครั้ง' ภายในระยะเวลาเพียงเดือนครึ่งในช่วงต้นปี 2568 ส่งผลให้คาเฟ่และร้านเครื่องดื่มหลายแห่งต้องเผชิญกับภาวะสินค้าขาดตลาดอย่างกะทันหัน

How to เข้าวงการ Matcha แจกสูตรชงมัทฉะ ต้องซื้ออะไรบ้าง ราคาเท่าไร

ตลาดมัทฉะทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง '4.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ' ในปี 2567 และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยปีละกว่า 6%

แรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากกระแสการดูแลสุขภาพทั่วโลก ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจในอาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือที่เรียกว่า "Functional Food"

อยากชงมัทฉะที่บ้าน ต้องซื้ออุปกรณ์อะไรบ้าง?

  • ถ้วยชงมัทฉะ (Chawan) : ไม่ใช่ถ้วยชาทั่วไป แต่เป็นถ้วยที่มีลักษณะกว้างและแบนพอที่จะเอื้อให้การใช้แปรงตีชาทำได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ 

CREDIT : KARU

  • แปรงตีมัทฉะ (Chasen) : อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ ทำจากไม้ไผ่ซี่เล็กๆ จำนวนมาก (มีตั้งแต่ 60, 80, 100 ซี่ ไปจนถึง 120 ซี่) ซึ่งจำนวนซี่จะมีผลต่อความละเอียดของฟองชา ยิ่งซี่มากฟองจะยิ่งเนียนละเอียด  

CREDIT : KARU

  • ช้อนตักชา (Chashaku) : ช้อนไม้ไผ่ลักษณะโค้งมน ใช้สำหรับตักและตวงผงมัทฉะ โดยทั่วไป 1-2 ช้อนชาชะคุ จะเท่ากับปริมาณมัทฉะสำหรับชง 1 ถ้วย

CREDIT : KARU

  • ที่วางแปรง (Kuse-naoshi) : ทำจากเซรามิก ใช้สำหรับวางแปรงตีชาหลังใช้งาน เพื่อช่วยรักษารูปทรงของซี่ไม้ไผ่ให้คงสภาพและใช้งานได้ยาวนานขึ้น  

CREDIT : KARU

  • ตะแกรงร่อนชา (Chakoshi) : ตะแกรงตาถี่สำหรับร่อนผงมัทฉะก่อนชง เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญมากเพื่อให้ได้ชาที่เนียนไร้ก้อน

CREDIT : KARU

ค่าอุปกรณ์ทั้งหมด ราคาเริ่มต้นประมาณ 500 - 800 บาท

วิธีชงมัทฉะที่ถูกต้อง ตามแบบฉบับ Usucha

  • ร่อนผงมัทฉะ (Sifting) : ใช้ผงมัทฉะประมาณ 2-3 กรัม (ประมาณ 1-2 ช้อนชา) ร่อนผ่านตะแกรงละเอียดลงในถ้วยชง (Chawan) เพื่อกำจัดเม็ดผงที่จับตัวเป็นก้อน จะช่วยให้มัทฉะละลายน้ำได้ง่ายและได้ฟองชาที่เนียนละเอียด
  • อุณหภูมิน้ำคือหัวใจ : ห้ามใช้น้ำเดือดจัด เพราะความร้อนสูงจะทำลายรสชาติอันละเอียดอ่อนของใบชา ทำให้เกิดรสขมและฝาด อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดคือ 70–80 องศาเซลเซียส เทน้ำร้อนประมาณ 60-70 มิลลิลิตรลงในถ้วย
  • เทคนิคการตีชา (Whisking) : การใช้แปรงตีมัทฉะหรือ "ฉะเซ็น" (Chasen) คือศิลปะสำคัญของการชง จับแปรงให้ตั้งตรงและตีชาอย่างรวดเร็วโดยใช้การสะบัดข้อมือ ไม่ใช่การคนเป็นวงกลม ให้ตีในลักษณะซิกแซกเป็นรูปตัวอักษร 'W' หรือ 'M' สลับกันไปมาประมาณ 15-20 วินาที จนผงชาละลายหมด และเกิดฟองละเอียดสีเขียวสวยงาม

หัวใจที่สำคัญที่สุดของการเข้าสู่วงการมัทฉะคือการเลือก "ผงมัทฉะ" ให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์การใช้งาน การเลือกผิดเกรดอาจทำให้ประสบการณ์ครั้งแรกไม่น่าประทับใจได้ โดยทั่วไปในตลาดผู้บริโภค เราสามารถแบ่งเกรดของมัทฉะออกเป็น 3 ระดับหลักๆ

CREDIT : KARU

ผงมัทฉะ มีกี่เกรด ราคาเท่าไรบ้าง?

เกรดพิธี (Ceremonial) : ชงดื่มกับน้ำเปล่าแบบดั้งเดิม (อุสุฉะ, โคอิฉะ) เพื่อสัมผัสรสชาติที่แท้จริงรสอูมามิ (Umami) สูง, หวานละมุนตามธรรมชาติ, ขมน้อยหรือไม่ขมเลย ราคาประมาณ 800 - 5,000+ บาท

เกรดลาเต้/พรีเมียม (Latte/Premium) : ชงผสมนมเป็นมัทฉะลาเต้ หรือเครื่องดื่มต่างๆ ที่ต้องการรสชาติมัทฉะที่ชัดเจนรสชาติเข้มข้น, กลิ่นหอมชัดเจนพอที่จะไม่โดนกลิ่นนมกลบ ราคาประมาณ 400 - 750 บาท

เกรดทำอาหาร/เบเกอรี (Culinary/Baking) : ใช้เป็นส่วนผสมในการทำขนม, เบเกอรี, ไอศกรีม, สมูทตี้ หรือปรุงอาหารรสขมและฝาดนำ, กลิ่นชาเข้มเขียวอมเหลือง, สีไม่สดใส ราคาประมาณ 150 - 350 บาท  

นอกเหนือจาก 'รสชาติ' ที่เป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้งแล้ว เหตุผลสำคัญที่ทำให้มัทฉะกลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนยุคใหม่คือคุณประโยชน์ต่อสุขภาพที่ได้รับการยอมรับและมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับอย่างกว้างขวาง

ประโยชน์จากการ 'ดื่มมัทฉะ' ที่มากกว่า 'ความอร่อย'

L-Theanine (แอล-ธีอะนีน) : เป็นกรดอะมิโนที่พบได้มากในชาเขียว โดยเฉพาะมัทฉะที่ปลูกในที่ร่มซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณสารนี้ L-theanine มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคลื่นอัลฟ่า (Alpha waves) ในสมอง ซึ่งเป็นคลื่นที่เกี่ยวข้องกับสภาวะจิตใจที่ผ่อนคลายและมีสมาธิ

Caffeine (คาเฟอีน) : มัทฉะมีคาเฟอีนในปริมาณที่สูงกว่าชาเขียวทั่วไป (ประมาณ 19-44 มิลลิกรัมต่อกรัม) ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและมีสมาธิ  

CREDIT : KARU

ความพิเศษอยู่ที่ L-theanine จะเข้าไปปรับการทำงานของคาเฟอีน ทำให้คาเฟอีนถูกปลดปล่อยเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ

ผลลัพธ์คือการได้รับพลังงานที่ยาวนานและคงที่ โดยไม่เกิดอาการใจสั่น กระวนกระวาย หรือภาวะ "พลังงานตก" อย่างรวดเร็วเหมือนที่มักพบในการ 'ดื่ม กาแฟ'

งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบในร่างกาย และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด และมะเร็งบางชนิด

มีการประเมินว่าการดื่มมัทฉะหนึ่งถ้วยอาจให้สารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ากับการดื่มชาเขียวทั่วไปถึง '10 ถ้วย'

ที่มา : matchasource,  Healthlinebangkokbiznews

related