svasdssvasds

"ตู้ไปรษณีย์" ไม่ใช่แค่ตู้รับจดหมาย แต่คือ 'ไดอารี่และวัฒนธรรมโลก'

"ตู้ไปรษณีย์" ไม่ใช่แค่ตู้รับจดหมาย แต่คือ 'ไดอารี่และวัฒนธรรมโลก'

ไปรษณีย์ไทย ชวนสัมผัส "ตู้ไปรษณีย์สุดแปลก" ที่กลายเป็นไวรัล แลนด์มาร์กในฝันที่นักเดินทางทั่วโลกต้องมาเยือน แน่นอนว่า ต้องไม่ใช่แค่ "ตู้แดง" ที่เราคุ้นตา แต่บางสถานที่ต้องดำดิ่งไปในทะเล เพื่อส่งความทรงจำที่มีค่า

SHORT CUT

  • ตู้ไปรษณีย์เป็นมากกว่าที่รับส่งจดหมาย แต่เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของแต่ละประเทศผ่านเรื่องราวและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ความแปลกใหม่ของตู้ไปรษณีย์ในหลายประเทศได้กลายเป็นแลนด์มาร์กดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น ตู้ไปรษณีย์ใต้น้ำที่วานูอาตูและญี่ปุ่น หรือคู่ตู้เอียงที่ไต้หวัน
  • สีและรูปแบบของตู้ไปรษณีย์มีความแตกต่างกันไปในแต่ละชาติ ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เช่น ตู้สีแดงของอังกฤษและไทย หรือตู้สีเหลืองของเยอรมนีและฝรั่งเศส

ไปรษณีย์ไทย ชวนสัมผัส "ตู้ไปรษณีย์สุดแปลก" ที่กลายเป็นไวรัล แลนด์มาร์กในฝันที่นักเดินทางทั่วโลกต้องมาเยือน แน่นอนว่า ต้องไม่ใช่แค่ "ตู้แดง" ที่เราคุ้นตา แต่บางสถานที่ต้องดำดิ่งไปในทะเล เพื่อส่งความทรงจำที่มีค่า

ใครจะไปคิดว่าเจ้า 'ตู้ไปรษณีย์' สีแดงๆ ที่ตั้งอยู่ตามมุมถนนทั่วไป จะไม่ได้มีแค่หน้าที่เอาไว้ส่งจดหมาย แต่ยังแอบเป็นเหมือนไทม์แมชชีน ที่พาเราไปสำรวจเรื่องราวมากมาย ทั้งความทรงจำ ประวัติศาสตร์ และไลฟ์สไตล์ทั่วโลก วันนี้เราเลยขอพาไปส่องตู้ไปรษณีย์สุดยูนิค ที่ไม่ได้มีแค่ความแปลก แต่ยังแฝงความหมายและประวัติศาสตร์ที่ไม่ธรรมดาเลย

ลงน้ำไปส่งจดหมายที่...วานูอาตู

เริ่มกันที่ความว้าวแรกกับ "ตู้ไปรษณีย์ใต้น้ำ" ที่เกาะไฮด์อเวย์ ประเทศวานูอาตู ซึ่งเป็นเกาะเล็กกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ตอนใต้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "สวรรค์แห่งท้องทะเล" การจะส่งโปสการ์ดที่นี่ไม่ได้แค่หย่อนตู้ริมถนน แต่ต้องดำน้ำลงไปลึกถึง 3 เมตร! นักท่องเที่ยวสามารถเขียนโปสการ์ดกันน้ำ แล้วดำดิ่งลงไปหย่อนด้วยตัวเอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประทับตรานูนพิเศษให้แทนหมึก ใครอยากมีโมเมนต์ "ครั้งหนึ่งในชีวิต" ที่ไม่เหมือนใคร ต้องมาที่นี่เลย และทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่จะลงไปเอาจดหมาย ก็จะชักธงขึ้นเหนือผิวน้ำ เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่า "พร้อมรับใช้แล้วจ้า" เสน่ห์เล็ก ๆ นี้เองที่ทำให้ตู้ไปรษณีย์ใต้น้ำกลายเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากไปลองสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

ตู้ไปรษณีย์ใต้น้ำ เกาะไฮด์อเวย์ ประเทศวานูอาตู

 

ญี่ปุ่นก็มี "ตู้ไปรษณีย์ใต้น้ำ" แต่ลึกกว่า!

ถ้าว่าใต้น้ำแล้ว ญี่ปุ่นก็ขอแข่งบ้าง กับ "ตู้ไปรษณีย์ใต้น้ำที่ลึกที่สุดในโลก" ที่อ่าวซูซามิ จังหวัดวากายามะ ด้วยความลึกถึง 10 เมตร ตู้ไปรษณีย์นี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1999 นับเป็นแห่งแรกที่ติดตั้งตู้ไปรษณีย์ใต้น้ำของโลก และกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาส่งโปสการ์ดกันน้ำด้วยปากกาสีน้ำมันราว 1,000-1,500 ชิ้นต่อปีเลยทีเดียว

ตู้ไปรษณีย์ใต้น้ำที่ลึกที่สุดในโลก” อ่าวซูซามิ จังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น

ข้ามไปที่ไต้หวัน...ตู้เอียงก็คูลได้

เรื่องความไม่สมบูรณ์ที่กลายเป็นความน่ารักต้องยกให้ไต้หวัน ปี 2015 พายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงทำเอาตู้ไปรษณีย์คู่หนึ่งเอียงไปในทิศเดียวกัน แทนที่จะซ่อมให้ตรงกลับมาเหมือนเดิม แต่กลับกลายเป็นว่าผู้คนแห่มาต่อคิวถ่ายรูปเป็นเดสทิเนชันไวรัล จนกลายเป็น "คู่ตู้เอียง" ขวัญใจโซเชียล ที่สร้างรอยยิ้มและกลายเป็นสัญลักษณ์น่ารักประจำเมืองไทเปไปโดยปริยาย

คู่ตู้เอียง ประเทศไต้หวัน

อังกฤษ...ตู้ไปรษณีย์ต้นตำรับความเก๋า

อังกฤษเป็นประเทศแรกที่สร้างตู้ไปรษณีย์ขึ้นมาในปี 1852 ที่เกิร์นซีย์ เริ่มแรกเป็นทรงแปดเหลี่ยมสีเขียวมะกอก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นทรงหกเหลี่ยมและใช้ "สีแดง" เป็นมาตรฐานครั้งแรก จนกลายเป็น "Pillar Box" ในตำนาน ที่สำคัญทุกตู้จะมีตราประจำรัชสมัยกษัตริย์หรือราชินีที่ครองราชย์ในตอนนั้น ทำให้มันเป็นเหมือนบันทึกประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตอยู่ริมถนน

ตู้ไปรษณีย์ สีมะกอก ประเทศอังกฤษ

ตู้ไปรษณีย์รูปหกเหลี่ยม ประเทศอังกฤษ

 

แอฟริกาใต้...ส่งจดหมายที่ต้นไม้

ที่แอฟริกาใต้มีเรื่องเล่าสุดเก๋าของ "Post Office Tree" ต้นไม้เก่าแก่ที่กะลาสีใช้ห้อยรองเท้าบูทใส่จดหมายให้คนเดินเรือผ่านมาเก็บไปส่งต่อ ปัจจุบันบริเวณนั้นได้สร้างตู้ไปรษณีย์ทรงรองเท้าบูทเอาไว้ เพื่อสืบสานตำนานการสื่อสารสุดคลาสสิกนี้

“Post Office Tree” เมืองมอสเซลเบย์ แอฟริกาใต้

ฝรั่งเศสและเยอรมนี...ตู้ไปรษณีย์เหลืองสดใส แต่ไม่เหมือนกัน

ตู้ไปรษณีย์สีเหลืองสดใสเป็นเอกลักษณ์ของเยอรมนี (Deutsche Post) และฝรั่งเศส (La Poste) ที่ตอกย้ำความเชื่อมั่นในการบริการที่ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ แต่ฝรั่งเศสมีลูกเล่นเพิ่ม โดยแยกช่องรับจดหมายสำหรับส่งในประเทศและต่างประเทศอย่างชัดเจน สะท้อนความพิถีพิถันและมีระเบียบตามสไตล์ฝรั่งเศส ที่แม้แต่ตู้จดหมายก็ยังบอกเล่าเรื่องราวของประเทศได้

ตู้ไปรษณีย์สีเหลืองสดใสของเยอรมนีและฝรั่งเศส

ตู้ไปรษณีย์สีแดงของไทย...ก็คลาสสิกไม่แพ้ใคร

แน่นอนว่าเราต้องไม่ลืม "ตู้ไปรษณีย์สีแดง" ที่เป็นแลนด์มาร์กและขวัญใจคนทุกวัยของไทย ตู้แดงสุดคูลนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดถ่ายรูป แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ตู้แรกที่นำเข้าจากเยอรมนีในปี 2426 ก่อนจะได้รับอิทธิพลจากอังกฤษจนกลายเป็นทรงที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน

ตู้ไปรษณีย์สีแดง ประเทศไทย

จากใต้น้ำถึงบนบก จากต้นไม้โบราณถึงไวรัลโซเชียล "ไปรษณีย์ทั่วโลก" ได้พิสูจน์แล้วว่าทุกอย่าง 'เป็นไปรฯได้' เพียงปรับวิธีคิดและปรับตัว และนี่เองคือเสน่ห์ที่ทำให้การสื่อสารยังคงพัฒนาและสร้างแรงบันดาลใจได้เสมอ

related