svasdssvasds

ขยับ "สมดุลชีวิต" ในมิติงาน ช่วยให้มองเห็นช่องทางการทำงานได้กว้างขึ้น

ขยับ "สมดุลชีวิต" ในมิติงาน ช่วยให้มองเห็นช่องทางการทำงานได้กว้างขึ้น

โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความซับซ้อนมายิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เคยเจอหลายกรณีที่รับพนักงานใหม่ได้ไม่นานแผนกหรือหน่วยงานนั้นโดนยุบ

SHORT CUT

  • เรื่องการงานในปัจจุบันเป็น 1 ใน 3 ด้านที่สำคัญมาก ถ้าใครสำรวจแล้วพบว่าต้องเริ่มปรับที่เรื่องงานก่อนเพื่อให้ชีวิตด้านอื่นๆ ของเราลงตัวมากขึ้น
  • หลายคนที่เปลี่ยนงานใหม่แล้วประสบปัญหาเดิมซ้ำ เพื่อเลี่ยงเหตุการณ์นี้ขอให้แจกแจงสิ่งที่เราไม่ชอบในงานปัจจุบันของเราออกมาก่อน
  • การโยกย้ายงานในที่ทำงานเดิม โอกาสที่เราจะไปรอดมีสูงกว่า เพราะอย่างน้อยเราก็คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อม สไตล์และวัฒนธรรมการทำงาน

โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความซับซ้อนมายิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เคยเจอหลายกรณีที่รับพนักงานใหม่ได้ไม่นานแผนกหรือหน่วยงานนั้นโดนยุบ

อาทิตย์ที่ผ่านมา เขียนถึงสมดุลชีวิตใน 3 ด้านที่ช่วยให้เราสามารถ “Work Life Integration” ได้อย่างลงตัว รวมถึงชวนให้ทุกคนได้สำรวจตัวเองง่ายๆ เพื่อหาทางปรับ ขยับให้ชีวิตมีความลงตัวมากขึ้น (อ่านบทความเดิมได้ที่นี่

เรื่องการงานของเราในปัจจุบันเป็น 1 ใน 3 ด้านที่สำคัญมาก ถ้าใครสำรวจแล้วพบว่าต้องเริ่มปรับที่เรื่องงานก่อนเพื่อให้ชีวิตด้านอื่นๆ ของเราลงตัวมากขึ้น ต้องไม่พลาดอ่านบทความนี้ก่อนมองหางานใหม่

จากประสบการณ์ทำงานด้าน HR มาตลอดชีวิต เจอหลายคนที่เปลี่ยนงานใหม่แล้วประสบปัญหาเดิมซ้ำ เพื่อเลี่ยงเหตุการณ์นี้ขอให้แจกแจงสิ่งที่เราไม่ชอบในงานปัจจุบันของเราออกมาก่อน ถ้าใครที่รู้สึกยากในขั้นตอนนี้ให้เริ่มจากการสังเกตเวลาทำงานดูว่า 

  • งานไหนที่ใช้เวลาทำนานมากกว่างานอื่นๆ เพราะความไม่ชำนาญหรือไม่อยากทำ
  • ไม่อยากเริ่มทำงานนั้น ผลัดวันประกันพรุ่ง เลื่อนเวลาเริ่มงานออกไปเรื่อยๆ
  • ถ้าสามารถเลี่ยงงานนั้นได้ก็อยากจะเลี่ยง หรือให้คนอื่นทำแทน 

พอค้นหาคำตอบได้แล้วว่างานที่ทำอยู่มีสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ถนัดอยู่ อย่าเพิ่งเล่นใหญ่ถึงขนาดเปลี่ยนงาน ให้ลองดูความเป็นไปได้ง่ายๆ ก่อน เช่น ปรับปรุงกระบวนการทำงานบางอย่าง ที่ช่วยให้งานที่เราไม่ชอบน้อยลง เช่น ไม่ชอบทำรายงาน เป็นไปได้มั้ยที่จะรวมหรือตัดรายงานบางอย่างที่ไม่จำเป็นแล้วออก หรือ Rotate เปลี่ยนงานกับเพื่อนร่วมงานในแผนก รวมถึงการสมัครงานตำแหน่งงานอื่นในบริษัทเดียวกันที่ทำให้เราไม่ต้องทำในสิ่งที่เราไม่ชอบ 

ที่เชียร์แบบนี้เพราะโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เคยเจอหลายกรณีที่รับพนักงานใหม่ได้ไม่นานแผนกหรือหน่วยงานนั้นโดนยุบ ใครที่มาทีหลังมีแนวโน้มต้องออกก่อน

นอกจากนี้การโยกย้ายงานในที่ทำงานเดิม โอกาสที่เราจะไปรอดมีสูงกว่า เพราะอย่างน้อยเราก็คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อม สไตล์และวัฒนธรรมการทำงาน แถมยังสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับงานและหน่วยงานที่เราจะย้ายไปทำก่อนล่วงหน้าได้ด้วย 

ถ้าสำรวจดูแล้วพบว่างานที่ทำอยู่ไม่ใช่แน่นอน ไม่ตอบโจทย์สมดุลชีวิตทั้ง 3 ด้าน ตัวเนื้องานและสิ่งแวดล้อมในการทำงานก็ไม่หมาะกับเราด้วยเหตุผลทั้งปวง การเริ่มมองหางานใหม่เป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผล การเตรียมตัวหางานใหม่อยากให้ทำการบ้าน 2 อย่างก่อนอัพเดท Profile หรือ Resume

  1. สำรวจตัวเองว่า เรามีทักษะอะไรเป็นจุดเด่น ชอบทำงานอะไร ลักษณะไหน ความสำเร็จเด่นๆ ที่พอจะเป็นจุดขายของตัวเอง
  2. ได้คำตอบข้อ 1 แล้วลองทำการบ้านว่าทักษะที่เรามี งานที่เราชอบ ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาเราจะนำไปสมัครงานในตำแหน่งงานอะไรได้บ้าง หรือสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นใดได้บ้างมั้ย?

หากคำตอบทั้ง 2 ข้อได้ชัดเจนจะช่วยให้เรามองเห็นช่องทางการทำงานได้กว้างขึ้น สามารถย้ายไปสู่วงการหรืออุตสาหกรรมที่เป็นขาขึ้น ซึ่งทำให้เรามีความเสี่ยงจากการถูกเลิกจ้างลดลง นอกจากนี้ยังสามารถสมัครงานในตำแหน่งที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ใครที่มองออกว่าเราจะสามารถประยุกต์ใช้ทักษะ ความสามารถ และประสบการณ์เดิมกับงานในอาชีพใหม่ออกย่อมได้เปรียบในช่องทางการหางานใหม่ได้ดีกว่า 

เอาใจช่วยให้ทุกคนเจองานที่สามารถสร้างสมดุลชีวิตให้กับตัวเอง

เพชร ทิพย์สุวรรณ

อดีต Corporate HR ที่ชอบเม้ามอยเทคนิคและเคล็ดลับการทำงานผ่านตัวหนังสือ 

ปัจจุบันเป็นวิทยากรและที่ปรึกษาด้านการคัดเลือก พัฒนาบุคลากรของ ALERT Learning and Consultant

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม 

related