svasdssvasds

ความสมดุลชีวิตที่ต้องมี ทำอย่างไรให้ “งาน-ชีวิตส่วนตัว” ผสมผสานลงตัว

ความสมดุลชีวิตที่ต้องมี ทำอย่างไรให้ “งาน-ชีวิตส่วนตัว” ผสมผสานลงตัว

ทุกครั้งที่เราได้ยินคำว่า “Work Life Balance” คนส่วนใหญ่มักนึกถึงมิติเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ทำอย่างไรให้งานและชีวิตส่วนตัวผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

SHORT CUT

  • ทุกครั้งที่เราได้ยินคำว่า “Work Life Balance” คนส่วนใหญ่มักนึกถึงมิติเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
  • คำถามคือทำอย่างไรให้งานและชีวิตส่วนตัวผสมผสานกันได้อย่างลงตัว แต่คำว่าลงตัวของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน 
  • เราพึงพอใจกับชีวิตตอนนี้จริงๆ หรือเปล่า ยังไหวอยู่มั้ย หรือจะไหวกับสภาพชีวิตแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน

ทุกครั้งที่เราได้ยินคำว่า “Work Life Balance” คนส่วนใหญ่มักนึกถึงมิติเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ทำอย่างไรให้งานและชีวิตส่วนตัวผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

ทุกครั้งที่เราได้ยินคำว่า “Work Life Balance” คนส่วนใหญ่มักนึกถึงมิติเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว หลายคนอาจจะนึกถึง 8 ชั่วโมงทำงาน 8 ชั่วโมงสำหรับชีวิตส่วนตัว ที่เหลือคือเวลานอน แต่ในความจริงเราไม่สามารถแยกชีวิตเป็นส่วนๆ ได้แบบนั้น อย่างก่อนหลับเราอาจจะคิดเรื่องงานที่ค้างอยู่ในหัวจนหลับ  หลายคนประชุมหลังเลิกงาน นัดกินมื้อค่ำกับลูกค้า ยิ่งถ้าทำงานแบบ WFH (Work from Home) บางคนเลี้ยงลูกไปทำงานไปก็มี 

“Work Life Balance” จึงกลายเป็น “Work Life Integration” โดยปริยาย คำถามคือทำอย่างไรให้งานและชีวิตส่วนตัวผสมผสานกันได้อย่างลงตัว แต่คำว่าลงตัวของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน 

วิธีวัดง่ายๆ ว่าลงตัวแล้วหรือยังคือคอยหมั่นตรวจสอบเสมอว่า เรามีความสุขกับชีวิตปัจจุบันมั้ย? หรือมีความไม่พอใจบางด้านของชีวิตหรือเปล่า?  

“บางด้านของชีวิต” ที่อยากชวนคนอ่านมาสำรวจ คือ 

  1. ด้านการเงิน
  2. ด้านสุขภาพ
  3. ด้านความสัมพันธ์ 

การเงิน

เรามีรายได้ที่เหมาะสมและเพียงพอต่อค่าครองชีพ มีเงินเก็บหรือหนี้สินมากน้อยแค่ไหน สถานะทางการเงินของเราเป็นอย่างไร ทั้งในปัจุบัน อนาคตอันใกล้หากมีเหตุฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้เงินเรามีเงินสำรองมากน้อยเพียงใด รวมถึงอนาคตระยะยาวหลังเกษียณเรายังมีเงินพอสำหรับใช้ชีวิตตามแบบที่เราต้องการหรือเปล่า? 

สุขภาพ

ตอนนี้สุขภาพเราเป็นอย่างไรบ้าง หลายคนหาเงินได้มากแต่ต้องแลกด้วยสุขภาพและความเครียดสะสมซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยหลายอย่าง ปัญหาสุขภาพเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราต้องสูญเสียเงินทองที่หามาได้ไปกับการรักษาพยาบาลและหลายครั้งสภาพร่างกายก็ไม่ได้กลับมาดีเหมือนดังเดิม ใครที่ตกอยู่สภาพเช่นนี้ลองประเมินดูว่าคุ้มมั้ยกับดีลนี้ หรือมีความสุขหรือเปล่ากับการทำงานเกินวันละ 10 ชม.แล้วได้อาการออฟฟิตซินโดรมแถมมาด้วย?

 

ความสัมพันธ์ 

เป็นมิติที่สำคัญมากที่หลายๆ คนลืมนึกถึง บางคนทำงานหนักมากลืมครอบครัว งานสังสรรค์เพื่อน พี่น้องไม่เคยไป หรือทำงานเน้นเป้าหมาย อยากให้ได้ผลลัพธ์ทำเอาลูกน้องและเพื่อนร่วมงานเบือนหน้าหนี ทำแบบนี้ชีวิตปัจจุบันอาจจะไม่เป็นปัญหา แต่อย่าลืมว่าโลกไม่ได้หยุดอยู่แค่วันนี้ พรุ่งนี้ คิดถึงยามเกษียณไม่ได้ทำงานสังคมคนรอบตัวจะกลายเป็นเรื่องสำคัญมากเกินกว่าที่คิดไว้

ยิ่งปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไวเท่าไรการรู้จักผู้คนหลากหลาย มีมิตรสหายดีๆ ไว้คอยพูดคุยปรึกษาในเรื่องที่เราไม่มีความชำนาญนั้นเป็นประโยชน์มาก ไม่มีใครรู้ว่าเราต้องถูกเลิกจ้าง ตกงานเมื่อไหร่ เครือข่ายญาติสนิท มิตรสหายที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลในยามลำบากแนะนำช่องทางการทำงานใหม่ๆ ให้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ลองให้คะแนนตัวเองใน 3 ด้านของชีวิตแล้วตอบตัวเองอย่างจริงใจอีกสักครั้งว่าเราพึงพอใจกับชีวิตตอนนี้จริงๆ หรือเปล่า? ยังไหวอยู่มั้ย? หรือจะไหวกับสภาพชีวิตแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน? คะแนนเต็ม 10 เราได้คะแนนแต่ละด้านเท่าไหร่ และถามต่อไปอีกนิดว่าเราพอใจที่คะแนนเท่าไหร่

ตรงนี้จะช่วยให้เราเห็น Gap หรือช่องว่างความแตกต่างในแต่ละมิติชัดเจนขึ้น และรู้ตัวว่าเราต้องจัดการชีวิตตัวเองอย่างไร ต้องปรับเรื่องไหนอะไรอย่างไรก่อน เช่น ควรขยับขยายเรื่องงานเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม หรือแค่ลดรายจ่าย เพิ่มเงินออม เพราะงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันมีองค์ประกอบด้านสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ลงตัวอยู่แล้ว เป็นต้น  

ตัวอย่างที่ยกมาทั้งหมดจะเห็นว่าองค์ประกอบทั้ง 3 ด้านของชีวิตเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก และแน่นอนว่าเกี่ยวเนื่องกันทั้งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ให้แง่มุมที่ละเอียดขึ้น ซึ่งช่วยให้เราสามารถจัดการชีวิตตัวเองได้ง่ายขึ้น 

เอาใจช่วยทุกคนให้มีชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ดี มีความสุข ทุกๆ วัน

เพชร ทิพย์สุวรรณ

อดีต Corporate HR ที่ชอบเม้ามอยเทคนิคและเคล็ดลับการทำงานผ่านตัวหนังสือ 

ปัจจุบันเป็นวิทยากรและที่ปรึกษาด้านการคัดเลือก พัฒนาบุคลากรของ ALERT Learning and Consultant

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

 

related