svasdssvasds

หมดฝนช้า ลูกน้อยผวาหนาวสั่น เฝ้าระวังเสี่ยงป่วยโรคมือเท้าปาก สายพันธุ์รุนแรง เพิ่มขึ้น 5 เท่า

หมดฝนช้า ลูกน้อยผวาหนาวสั่น เฝ้าระวังเสี่ยงป่วยโรคมือเท้าปาก สายพันธุ์รุนแรง เพิ่มขึ้น 5 เท่า

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

การวินิจฉัยโรคมือเท้าปาก สามารถวินิจฉัยได้จากลักษณะอาการที่แสดงและการตรวจร่างกายของผู้ป่วย ดังนี้

พบว่าผู้ป่วยมีไข้ 38-39 องศาเซลเซียส

พบจุดนูนแดง ตุ่มน้ำใส หรือแผลที่เยื่อบุปาก ลิ้น และเหงือก

พบจุดแดงราบ ตุ่มนูน หรือตุ่มน้ำที่มือ เท้า ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และแก้มก้น

 

หมดฝนช้า ลูกน้อยผวาหนาวสั่น เฝ้าระวังเสี่ยงป่วยโรคมือเท้าปาก สายพันธุ์รุนแรง เพิ่มขึ้น 5 เท่า

 

ในรายที่จำเป็น หรือผู้ป่วยมีอาการแทรกซ้อนรุนแรง แพทย์อาจทำการตรวจเชื้อไวรัสจากสิ่งคัดหลั่ง ที่คอหอย อุจจาระ หรือน้ำเหลืองจากตุ่มน้ำบนผิวหนังเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าเป็นการติดเชื้อในกลุ่มนี้ (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ เพราะไม่จำเป็นต้องทำในผู้ป่วยทุกราย เนื่องจากมีราคาแพง และในบางสถานการณ์อาจทำไม่ได้เนื่องจากอุปสรรคทางเทคนิคต่างๆ ในปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการตรวจที่จะให้ผลรวดเร็วภายใน 1-2 ชั่วโมง

 

โรคนี้ต้องแยกออกจากโรคที่มีอาการคล้ายกัน เช่น โรคไข้รูมาติก (เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดไข้ออกผื่น ), เฮอร์แปงไจน่า (เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดผื่นตามผิวหนังและตุ่มน้ำในปาก) , เริม , อีสุกอีใส , แผลร้อนใน , แผลพุพอง

 

ภาวะแทรกซ้อนของโรคมือเท้าปาก

ในรายที่มีอาการคัน อาจเกาจนเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน จนกลายเป็นตุ่มหนอง พุพอง  อาจเกิดภาวะขาดน้ำเนื่องจากการเจ็บแผลในปากจนทำให้ดื่มน้ำได้น้อย

ในบางรายอาจมีเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งมักจะไม่รุนแรง และจะหายได้เองภายใน 10 วัน

 

"ในรายที่เป็นรุนแรง จากการติดเชื้อไวรัสเอนเทอโรชนิด 71 (พบได้น้อย) มักทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนักกว่าที่เกิดจากเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอ ชนิด 16 โดยมักจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท ระบบหัวใจ และปอดได้สูง ได้แก่ สมองอักเสบ อัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก ภาวะปอดบวมน้ำ (Pulmonary edema) หรือเลือดออกในปอด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) ซึ่งอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ แต่การติดเชื้อจากเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 16 ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน คือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ และภาวะช็อกได้ แต่จะพบได้น้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับการติดเชื้อไวรัสเอนเทอโรชนิด 71"

 

หมดฝนช้า ลูกน้อยผวาหนาวสั่น เฝ้าระวังเสี่ยงป่วยโรคมือเท้าปาก สายพันธุ์รุนแรง เพิ่มขึ้น 5 เท่า

 

แต่อาการแทรกซ้อนจะไม่สัมพันธ์กับจำนวนแผลในปากหรือตุ่มที่พบตามฝ่ามือหรือฝ่าเท้า เพราะในรายที่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรง อาจมีแผลเพียงไม่กี่จุดในลำคอ หรืออาจมีตุ่มขึ้นเพียงไม่กี่ตุ่ม ตามฝ่ามือหรือฝ่าเท้าก็ได้ พ่อแม่หรือผู้ปกครองจึงควรดูแลลูกอย่างใกล้ชิดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แม้ว่าผื่นและแผลในปากจะหายไปแล้วก็ตาม โดยสัญญาณเตือนของภาวะแทรกซ้อนที่พ่อแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที มีดังนี้

  • เด็กมีอาการซึมลง ไม่เล่น หรือไม่อยากรับประทานอาหารหรือนม
  • บ่นว่าปวดศีรษะ ปวดแบบทนไม่ไหว
  • มีอาการพูดเพ้อไม่รู้เรื่อง สลับกับมีอาการซึมลง หรือเห็นภาพแปลก ๆ
  • มีอาการปวดต้นคอ คอแข็ง มีการรับรู้ที่สับสน ซึมลง และอาเจียน
  • เกิดอาการสะดุ้งผวา ตัวสั่น ๆ แขนหรือมือสั่นบ้าง
  • มีอาการไอ หายใจเร็ว ดูเหนื่อย ๆ หน้าซีด มีเสมหะมาก โดยอาจจะมีหรือไม่มีไข้ร่วมด้วยก็ได้

 

หมดฝนช้า ลูกน้อยผวาหนาวสั่น เฝ้าระวังเสี่ยงป่วยโรคมือเท้าปาก สายพันธุ์รุนแรง เพิ่มขึ้น 5 เท่า

 

ในรายที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ให้รักษาไปตามอาการด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  • หากมีไข้ให้เช็ดตัวและให้กินยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อลดไข้
  • ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ จนสังเกตเห็นว่ามีปัสสาวะออกมาและใส
  • ในช่วงที่มีอาการเจ็บแผลในปาก ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารเหลวหรือของน้ำ ๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม แกงจืด นม น้ำเต้าหู้ น้ำหวาน ฯลฯ (สำหรับทารกให้ใช้ช้อนป้อนหรือใช้กระบอกฉีดยาค่อย ๆ หยอดเข้าปากแทนการดูดจากขวด) และให้อมน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ ดื่มน้ำหรือนมเย็น ๆ กินไอศกรีม (ความเย็นจะช่วยทำให้ชา ไม่เจ็บแผล) หรือบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นบ่อย ๆ (ใส่เกลือแกง 1/2 ช้อนชา ในน้ำอุ่น 1 แก้ว) เพื่อช่วยลดอาการเจ็บแผล

แม้ว่าโรคนี้มักจะหายได้เองภายใน 7-10 วัน หรือเต็มที่ก็ไม่เกิน 2 สัปดาห์ แต่แนะนำว่าควรสังเกตภาวะแทรกซ้อนทางสมอง ปอด และหัวใจอย่างใกล้ชิด หากสงสัยว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

 

หมดฝนช้า ลูกน้อยผวาหนาวสั่น เฝ้าระวังเสี่ยงป่วยโรคมือเท้าปาก สายพันธุ์รุนแรง เพิ่มขึ้น 5 เท่า

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เว็บไซต์เมดไทย (MedThai)

ภาพประกอบ : www.nhsdirect.wales.nhs.uk, www.blogcdn.com, wikipedia.org (by Ngufra, MidgleyDJ), www.natural-health-news.com, babycenter.com

related