"วัชรพล" ไม่ติดใจ ปม "ผู้ว่าฯสตง." สอบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้

ประธาน ป.ป.ช. ขอ กรธ.แก้ไขร่าง กฎหมายลูก ป.ป.ช.ตามข้อเสนอ โดยเฉพาะเรื่องกรอบเวลาที่อาจสร้างแรงกดดันต่อเจ้าหน้าที่ ส่วนกฎหมายลูกการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบการทำงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้ ตนไม่ติดใจ

วันที่ 23 ต.ค.60--พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินที่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ว่า เห็นด้วยกับภาพรวมของกฎหมายเพราะว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ในการตรวจสอบการใช้เงินแผ่นดินของทุกหน่วยงาน

[caption id="attachment_126703" align="alignnone" width="627"] พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.[/caption]

ส่วนรายงานข่าวที่ว่ามีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการให้ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินสามารถเข้ามาไปตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้นั้น ตนไม่แน่ใจในเรื่องนี้ แต่คิดว่า คงกังวลในข้อกฎหมายตามเนื้อหาเดิมก่อนปรับแก้ แต่เมื่อผ่านความเห็นชอบจาก สนช. ก็ถือว่าเรื่องยุติ

ส่วน ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วย ป.ป.ช. ทราบว่า กรธ.จะส่งร่างกฎหมายไปยัง สนช. ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ซึ่งทาง ป.ป.ช.ได้ส่งความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายกลับไปยัง กรธ.แล้ว โดยประเด็นที่อยากให้มีการแก้ไข คือ เรื่องบริบทและกรอบเวลาการทำงาน เพราะไม่อยากให้เจ้าที่ทำงานภายใต้แรงกดดัน และกังวลกับเรื่องของบทลงโทษ แต่ท้ายที่สุดหากไม่ได้รับการแก้ไขจาก กรธ. ก็จะเสนอในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการของ สนช.อีกครั้ง

พล.ต.อ.วัชรพล ระบุถึงการรื้อฟื้น 3 คดีใหญ่ ที่จะยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย ว่า คดีที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร 2 คดี อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะมีข้อมูลเดิมอยู่แล้ว เมื่อแล้วเสร็จก็จะยื่นศาลฯตามขั้นตอน