svasdssvasds

ภาษีเหล็ก! เครื่องมือเจรจาการค้าจาก "ทรัมป์"

ภาษีเหล็ก! เครื่องมือเจรจาการค้าจาก "ทรัมป์"

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกกฎหมายกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ 25% และอลูมิเนียม 10% มีผลบังคับใช้ใน 15 วัน เว้นแคนาดา และ เม็กซิโก ถือเป็นมาตรการการกีดกันทางการค้าที่ชัดเจนที่สุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ลงนามในประกาศประธานาธิบดีให้ออกกฎหมายกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ 25% และอลูมิเนียม 10% ไปแล้ว และจะมีผลบังคับใช้ใน 15 วัน แต่ยังเปิดประตูให้ประเทศคู่ค้าเจรจากับสหรัฐฯเพื่อยกเว้นได้ในอนาคต

ในเนื้อหาประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุไว้ชัดเจนว่า ภาษีดังกล่าวจะบังคับใช้กับทุกประเทศยกเว้นแคนาดา และ เม็กซิโก โดยทรัมป์ ได้ระบุด้วยว่า อเมริกายังเปิดประตูให้กับทุกประเทศที่อาจจะได้รับการยกเว้นในอนาคตเช่นเดียวกับแคนาดา และเม็กซิโก

นั่นหมายความว่าสหรัฐฯยังเปิดโอกาสให้ทุกประเทศเข้าเจรจาในระดับทวิภาคีกับสหรัฐฯ เพื่อการต่อรองการค้าในอนาคต โดยสหรัฐฯกำลังใช้ภาษีเหล็ก และอลูมิเนียมเป็นเครื่องมือในการต่อรอง

คำสั่งของทรัมป์ในครั้งนี้ที่ยกเว้นแคนาดา และเม็กซิโก นั้นได้แสดงให้เห็นว่า โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังสร้างความได้เปรียบในการเจรจาต่อรองกับแคนาดา และเม็กซิโก ในการเจรจาการค้าเสรีอเมริกาเหนือหรือ นาฟต้า ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ประเทศ คือสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา โดยที่ผ่านมานั้น สหรัฐฯ ได้กดดันทั้งสองประเทศให้มีการเจรจาการค้าใหม่ที่มีความเป็นธรรมต่อสหรัฐมากกว่านี้

ทั้งนี้ ภาษีเหล็ก และอลูมิเนียมใหม่ จะมีผลบังคับใช้ทันทีใน 15 วันทันที การขึ้นภาษีเหล็ก และอลูมิเนียม ของสหรัฐฯในครั้งนี้ ยังถือว่าเป็นมาตรการการกีดกันทางการค้าที่ชัดเจนที่สุดของสหรัฐฯ ซึ่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็มีนโยบายชัดเจนนับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อต้นปีที่แล้ว ที่จะรื้อฟื้นการเจรจาการค้าใหม่ โดยจะเน้นการเจรจาต่อรองในระดับทวิภาคี ไม่ใช่แบบพหุภาคี ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญว่าเพราะเหตุใด ทรัมป์จึงประกาศถอนตัวจากกลุ่มความร่วมมือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค หรือ ทีพีพี ไปก่อนหน้านี้

ภาษีเหล็ก! เครื่องมือเจรจาการค้าจาก "ทรัมป์"

ภาษีเหล็ก! เครื่องมือเจรจาการค้าจาก "ทรัมป์"

ภาษีเหล็ก! เครื่องมือเจรจาการค้าจาก "ทรัมป์"

อย่างไรก็ตาม การขึ้นภาษีเหล็ก และ อลูมิเนียม ของทรัมป์ ในครั้งนี้ นอกเหนือจากที่อาจจะเสี่ยงถูกตอบโต้จากประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะยุโรปที่มีท่าทีแข็งกร้าว รวมไปถึงจีนด้วย แล้ว ยังอาจจะทำให้เหล็กในสหรัฐฯไม่เพียงพอ และเหล็กในสหรัฐฯจะมีราคาแพงขึ้นอีกด้วย

 

 

 

 

 

related