นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เดินทางไปยังจังหวัดหนองบัวลำภูแล้ว เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาความยากจนในภาคเกษตรเชิงบูรณาการตามแนวทางศาสตร์พระราชา
วันนี้( 22 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พร้อมคณะ ออกเดินทางไปยังจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาความยากจนในภาคการเกษตรเชิงบูรณาการตามแนวทางศาสตร์พระราชา
ทั้งนี้ ก่อนเดินทาง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงอุบัติเหตุรถทัวร์ปรับอากาศ 2 ชั้นประสบอุบัติเหตุ เสียหลักชนกับรถบรรทุก 18 ล้อมก่อนจะชนกับต้นไม้ บนถนนทางหลวงหมายเลข 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี บริเวณโค้งมะกรูดหวาน ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ให้มีการดูแลเรื่องดังกล่าวแล้ว
โดยล่าสุด พลเอกประยุทธ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักอินทรีย์ โพธิ์ศรีสำราญ ตำบลหัวนา อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภูแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายข้าราชการและประชาชนที่มารอให้การต้อนรับ ก่อนเป็นประธานสักขีพยานในการมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลให้แก่ผู้แทนประชาชนจำนวน 10 คน พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้พบปะประชาชนกว่า 500 คน โดยกล่าวว่า ส่วนตัวและรองนายกรัฐมนตรีที่เดินทางมาด้วยกัน ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มจากทุกคน เพราะทุกคนคือคนไทยไม่ว่าจะอยู่ภาคหรือจังหวัดใด ก็แบ่งแยกไม่ได้ ต้องรักและช่วยกัน ซึ่งส่วนตัวให้ความสำคัญกับจังหวัดหนองบัวลำภู เพราะเป็นจังหวัดที่มีรายได้น้อยที่สุดในประเทศ ดังนั้นต้องยกระดับตนเองร่วมกันกับรัฐบาล โดยรัฐบาลให้ความสำคัญขอฃ จว.ที่มีปัญหาควบคู่กับหลายจังหวัด แต่จังหวัดใดลำบากมากก็ต้องดูแลมาก โดยนายกรัฐมนตรี ได้แนะนำรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงที่เดินทางมาด้วยกัน พร้อมระบุว่า เคยมีรัฐบาลใดนำส่วนราชการระดับสูงลงพื้นที่มากขนาดนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม วันนี้มีการวางแผนพัฒนาภาค 6 ภาค โดยทำให้ทุกภาคเข้มแข็งด้วยตนเอง ค้นหาศักภาพและและขีดความสามารถของบุคคลในพื้นที่ โดยแต่ละจังหวัดมีงบประมาณที่รัฐบาลได้ให้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลดูแลคนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย และต้องกลับมาดูปัญหาที่เกิดขึ้นว่าอยู่ตรงไหน ขณะเดียวกันส่วนตัวห่วงยางว่าวันข้างหน้าจะมีปัญหาหรือไม่ เพราะขณะนี้ราคายางตกต่ำกิโลละไม่ถึง 50 บาท ซึ่งราคายางเป็นไปตามราคาน้ำมันโลก ดังนั้นต้องวางแผนการเกษตรใหม่ โดยให้ทุกคนศึกษาการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งประเทศไทยใช้พื้นที่กว่าร้อยละ 70 ทำการเกษตร ส่วนร้อยละ 30 เป็นเรื่องของอุตสาหกรรมและเรื่องอื่นๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลเข้ามาดูแลคนทั้งประเทศ ดังนั้นงบประมาณจากการเก็บภาษีต้องใช้จ่ายให้ครบทุกคน แต่ต้องนำมาดูแลผู้มีรายได้น้อยมากกว่า ตลอดจนต้องติดตามข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลจากช่องทางต่างๆ ส่วนเวลาที่ต้องการพักผ่อนก็ดูละคร เช่นบุพเพสันนิวาส แต่ขออย่าเปิดเรื่องที่ไม่เป็นสาระ เช่นกรณีหวย 30 ล้านที่หลายคนยังให้ความสนใจอยู่ และถึงอย่างไรก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย ขณะเดียวกัน กระแสอุ่นไอรัก ต่อเนื่องถึงละครบุพเพสันนิวาสที่ประชาชนหันมาแต่งกายด้วยชุดไทยมากขึ้น แต่ขออย่าหาว่าใช้ประโยชน์จากละคร แต่อะไรที่ดีก็ต้องนำมาใช้ประโยชน์
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ตนเองเป็นรัฐบาลแบบนี้วันหน้าจะเป็นอย่างไรไม่ทราบ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน พร้อมถามประชาชนว่า รัฐบาลนี้ดีหรือไม่ ซึ่งประชาชนตอบกลับว่าดี และนายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า ขออย่าพูดเอาใจ รัฐบาลนี้อาจจะไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะกำลังเริ่มต้น ตลอดจนสิ่งสำคัญคือการบังคับใช้กฏหมาย ที่ต้องทำให้เกิดความเท่าเทียม และขอให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฏหมาย ขณะที่รัฐบาลรับเรื่องร้องเรียนทุกเรื่องและแก้ปัญหาไปแล้วกว่าร้อยละ 90 โดยมีช่องทางคือศูนย์ดำรงธรรม ส่วนการทุจริต ที่เกิดจากต่างคนต่างยอมกัน ที่มีทั้งคนได้และเสียประโยชน์ และคนที่ไม่รักษาสิทธิของตนเอง เช่นการทุจริตเงินของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า โครงการไทยนิยมยั่งยืน ไม่ใช่โครงการหาเสียงของตนเอง แต่เป็นโครงการที่ลงมาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ตลอดจนหลักคิดที่สำคัญเรื่องประชาธิไตย ซึ่ง สส.ที่มาจากทุกพื้นที่ มาจากหลายพรรค และก็ลงไปยังพื้นที่ของตนเอง