เกษตรกรชาวกำแพงเพชร จบ ป. 4 ดัดแปลงเครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าว ให้เกษตรกรชาวนาในกลุ่มนาแปลง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนนำไปใช้ ลดต้นทุน ประหยัดเวลาในการทำนา หลังศึกษาดูงานการเกษตร
เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าว สิ่งประดิษฐ์จากเกษตรกรชาวนาจังหวัดกำแพงเพชร เป็นความสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่น และพากเพียร ของนายณรงค์ แก่นทองเจริญ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/2 หมู่ที่ 2 บ้านคลองเจริญ ต.ท่าพุทรา อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ซึ่งการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ต่อยอดพัฒนาใช้เทคโนโลยีและวัสดุต่างๆ ที่มีคุณภาพต้นทุนต่ำ หาได้ง่ายตามท้องถิ่น ดัดแปลงประดิษฐ์เป็นเครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าว สามารถใช้งานได้จริง ลดเวลาในการทำนา ที่สำคัญประหยัดเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ต้องหว่านลงในแปลงนา ประมาณ 12 กิโลกรัมต่อไร่ พร้อมกับยกร่องน้ำไปด้วย ซึ่งแตกต่างจากการใช้มือหว่าน ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าว ประมาณ 25-30 กิโลกรัมต่อไร่
การใช้เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าว ลงในแปลงนา มีความสม่ำเสมอ ต้นข้าวจะเรียงกันเป็นแถว มีระเบียบ ง่ายต่อการกำจัดวัชพืช รากข้าวยาวเร็ว ต้นข้าวสมบูรณ์ แข็งแรง แตกกอมาก ที่สำคัญออกแบบให้มาใช้ได้ง่าย มีต้นทุนในการประดิษฐ์ต่ำ เมื่อรวมค่าแรงการผลิตต่อเครื่อง ราคา 10,300 บาท ทำให้ชาวนาได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก เมื่อต้องเปรียบเทียบกับ เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวจากบริษัทผู้ผลิตมีราคาสูงกว่า
นายณรงค์ เจ้าของผลงาน บอกว่า ก่อนหน้านี้ไปศึกษาดูงานการทำการเกษตรที่ต.เขาคีริส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ทางกรมการข้าวได้นำเครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวมาสาธิตให้เกษตรกรชาวนาดู แต่มีราคาแพงประมาณเครื่องละ 50,000 กว่าบาท จึงกลับมาดัดแปลงเครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวขึ้นเอง เพื่อให้เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำไปใช้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรชาวนาไทยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
นอกจากเครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าว ยังได้ประดิษฐ์เครื่องคัดแยกเมล็ดพันธุ์ข้าวสารขึ้นเอง เพื่อให้เกิดความสะดวกและง่ายต่อการคัดแยกเมล็ดพันธุ์ข้าวสาร แทนการฝัดข้าว ช่วยให้เกษตรกรคัดแยกเมล็ดพันธุ์ข้าวสารเร็วยิ่งขึ้น