SHORT CUT
รู้จัก “ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย” แม่ทัพใหญ่คุมทีม JBC ไทย-กัมพูชา : นักการทูตรู้เขารู้เรา กับภารกิจเจรจาเขตแดนสุดร้อนแรง และข้อกังขาแผนที่คณะกรรมการปักปันฯ มาตราส่วน 1:200,000 แบบกัมพูชา
การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC ที่จะจัดขึ้นวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ความเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่ายถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะท่าทีของรัฐบาลกัมพูชา ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ที่มีอดีตนายกฯ ฮุน เซน คอยหนุนหลังอยู่เงียบๆ พร้อมยืนกรานหนักแน่นว่า “ข้อพิพาทเขตแดนไทย-กัมพูชา ต้องขึ้นศาลโลกเท่านั้น ไม่คุยในเวที JBC”
ในขณะที่ฝ่ายไทย ยืนยันจะขอเจรจาบนโต๊ะ JBC ให้ได้ จึงเป็นภารกิจหนักของคณะเจบีซีไทย ที่ต้องรับมือกับท่าทีแข็งกร้าวของกัมพูชา โดยมี “ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย” เป็นแม่ทัพใหญ่ในศึกการทูตครั้งนี้
ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คืออดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ผู้คร่ำหวอดในแวดวงการทูต และถือเป็นหนึ่งในนักการทูตที่ “รู้เขารู้เรา” รับรู้จังหวะก้าวกัมพูชา บนเวทีเจรจาระหว่างประเทศมากที่สุดคนหนึ่งในประเด็นเขตแดนกัมพูชา
เขาเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ดังนี้:
ย้อนกลับไปปี 2552 ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาระอุถึงขีดสุด หลังจากทางการกัมพูชาตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวนายกฯ ฮุนเซน ขณะนั้น นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ จึงเรียกตัว นายประศาสน์ กลับจากกรุงพนมเปญเป็นการตอบโต้ทางการกัมพูชา ที่แต่งตั้งพันตำรวจโททักษิณ และทางกัมพูชาเอง ก็ได้เรียกเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับ เพื่อเป็นการตอบโต้เช่นเดียวกัน ก่อนที่นายทักษิณ ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาดังกล่าว
แต่ในปี 2553 หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย นายประศาสน์ก็ถูกส่งกลับไปรับตำแหน่งทูต ณ พนมเปญอีกครั้ง เพื่อสานสัมพันธ์และฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต
นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทสำคัญในการยื่นหนังสือขออภัยโทษให้แก่นายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ที่ถูกจับข้อหาล่วงล้ำแดนและจารกรรมในกัมพูชา แต่คำขอถูกปฏิเสธตามกฎหมายท้องถิ่น ที่กำหนดให้ต้องรับโทษอย่างน้อย 2 ใน 3 ก่อนจึงจะขออภัยโทษได้
นอกจากประสบการณ์ทางการทูตแล้ว นายประศาสน์ ยังมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการรับมือกับปมปัญหาเขตแดนที่ซับซ้อน และการเจรจาที่ยืดเยื้อมาเป็นสิบปี แต่ก็มีทั้งเสียงสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศ และเสียงคัดค้านจาก ฝ่ายเครือข่ายนักเคลื่อนไหว เช่น วีระ สมความคิด ซึ่งตั้งคำถามว่า ท่าทีของนายประศาสน์ที่ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 แบบกัมพูชา ซึ่งขัดแย้งกับแผนที่ 1:50,000 ที่ทางไทยยึด ทำให้ตั้งข้อกังขาว่าคนที่มีจุดยืนแบบนี้ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่นี้ได้อย่างไร
สำหรับคณะกรรมาธิการ JBC ฝ่ายไทย ที่จะร่วมประชุม ณ กรุงพนมเปญ วันที่ 14 มิ.ย. 2568 ประกอบด้วยบุคคลสำคัญจากหลายหน่วยงาน เช่น
รวมถึงฝ่ายเลขานุการจากกรมสนธิสัญญาฯ และล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าได้มีการแต่งตั้ง พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทสส. เป็น “ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ” นี้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง