บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะจุดโทษ แบงค็อก ยูไนเต็ด ไป 8-7 หลังเสมอกันในเวลา 0-0 ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ 2018 ได้สำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ 2018 รอบ 64 ทีมสุดท้าย เมื่อวันพุธที่ 27 มิถุนายน 2561 “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีคิวเปิด ช้างอารีนา ทำศึกซูเปอร์บิ๊กแมตช์ รับการมาเยือนของ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
เริ่มเกมครึ่งแรก ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก แค่นาทีที่ 4 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นเร็วเมื่อ สุเชาว์ นุชนุ่ม ขึ้นแย่งโหม่งบอลกับผู้เล่นทีมเยือนกลางอากาศ แล้วศรีษะโขกกันทำให้เกิดแผลแตก ต้องเปลี่ยนตัวเอา อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ ลงสนามมาเล่นแทน นาทีที่ 19 แบงค็อก ได้เล่นโต้กลับ วานเดอร์ หลุยส์ ได้กระชากบอลขึ้นหน้ามาถึงเขตโทษก่อนจะตัดสินใจยิงไปติดบล็อก พรรษา เหมวิบูลย์ ที่วิ่งตามมาบอลลอยชนคานออกหลังไป ถัดมานาทีที่ 27 ปราสาทสายฟ้า เกือบที่จะได้เฮลั่น ดิโอโก ได้บอลทางขวาก่อนจะเลี้ยงตัดเข้าในแล้วซัดเต็มข้อบอลพุ่งชนคานอย่างจัง ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้นาทีเดียว บุรีรัมย์ ก็มาได้ลุ้นประตู จักรพันธ์ ขึ้นกลางตรงกลางสนามก่อนจะเปิดเข้าเขตโทษให้ ดิโอโก ได้โขกไปที่เสาขวามือ วรุฒ เมฆมุสิก บินไปรับบอลไว้ได้ นาทีที่ 73 ปราสาทสายฟ้า น่าที่จะได้ประตูออกนำอย่างที่สุด ออสวัลโด ได้ใช้ความสามารถ และความเร็วลากบอลจากแดนตัวเองมาถึงเขตโทษฝั่งขวาแล้วเปิดข้ามมาที่เสาสอง จักรพันธ์ วิ่งเข้ามาวอลเลย์ย้อนทาง ทว่า วรุฒ เมฆมุสิก พุ่งปัดบอลไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ จากนั้นทั้ง 2 ทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ ทำให้ครบเวลา 90 นาที บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสมอ แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ
แต่เมื่อครบ 120 นาทีทั้ง 2 ทีมก็ยังไม่สามารถที่จะทำประตูกันได้ ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ โดยช่วงยิงจุดโทษ 5 คนแรก ทั้ง 2 ทีมยิงเข้า 4 คนเท่ากัน ต้องมายิงแบบตัวต่อตัว ซึ่ง 3 คนแรกของทั้ง 2 ทีมยิงเข้า มาถึงคนที่ 4 นฤบดินทร์ ยิงเข้าไป ส่วน แบงค็อก ส่ง สุมัญญา ปุริสาย มายิง และยิงข้ามคานออกหลังไป ทำให้จบการยิงจุดโทษ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะไป 8-7 ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายต่อไป