รัฐบาลฝรั่งเศสเตรียมระงับแผนการขึ้นภาษีน้ำมัน ที่เป็นต้นเหตุก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงครั้งรุนแรงในประเทศมานานหลายสัปดาห์
สื่อท้องถิ่นฝรั่งเศสรายงานว่า รัฐบาลฝรั่งเศสเตรียมที่จะระงับแผนการขึ้นภาษีน้ำมัน ที่เป็นต้นเหตุก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงครั้งรุนแรงในประเทศเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์แล้ว โดยกลุ่มผู้ประท้วง เสื้อกั๊กเหลือง ได้รวมตัวชุมนุมกันในหลายเมืองหลักของประเทศ เพราะไม่พอใจที่รัฐบาลขึ้นภาษีน้ำมัน แต่ต่อมาได้กลายเป็นความโกรธแค้นต่อประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง และรัฐบาลของเขา จนลุกลามบานปลายกลายเป็นความรุนแรง ที่ผู้ชุมนุมปะทะกับตำรวจและสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินสาธารณะ รวมทั้งกิจการร้านค้าต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเอดัวร์ ฟิลิป มีแผนที่จะเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ทางผู้ชุมนุมได้ยกเลิกแผนการเจรจาไปเพราะได้รับคำขู่เอาชีวิตจากกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงที่ไม่ต้องการให้เจรจากับรัฐบาลฝรั่งเศส
มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ไปแล้ว 263 คนทั่วประเทศ ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง 23 นาย และมีผู้ถูกจับกุมไป 412 คน ซึ่งนายกเทศมนตรีกรุงปารีสประเมินค่าความเสียหายของทรัพย์สินว่าอยู่ที่ระหว่าง 3 ถึง 4 ล้านยูโร นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 ราย จากเหตุรุนแรงและการทำลายข้าวของโดยผู้ชุมนุม
ประธานาธิบดีมาครงได้รับเลือกให้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อสองปีก่อน พร้อมนโยบายที่จะปฏิรูปประเทศ แต่แล้วความนิยมของเขาก็ลดต่ำลงอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ โดยผู้นำฝรั่งเศสได้กล่าวโทษศัตรูทางการเมืองของเขาว่าเข้าแทรกแซงการชุมนุมประท้วง เพื่อขัดขวางโครงการปฏิรูปนโยบายต่างๆของเขา นอกจากนี้ประธานาธิบดีมาครงยังเคยให้คำมั่นว่าจะไม่ยอมถอยแผนการขึ้นภาษีน้ำมันเพื่อแก้ปัญหามลพิษในอากาศ แต่แล้วเมื่อวานนี้รัฐบาลฝรั่งกลับแสดงท่าทีว่าอาจยอมถอยให้กับกลุ่มผู้ประท้วง