พรรคพลังประชารัฐออกแถลงการณ์ 3 ข้อ เรียกร้องจับขั้วการเมือง หลัง กกต.รับรองผลทางการ ชี้ทุกพรรคมีสิทธิตั้งรัฐบาล จี้ กกต.แจงข้อกังขาสังคม ยืนยันไม่ซื้อตัวพรรคอื่น
ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พร้อม เลขาธิการพรรคฯ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ โฆษกพรรคฯ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล และ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และกรรมการบริหารพรรคฯ นาย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ออกแถลงการณ์ ถึงผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ด้วยการขอบคุณประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจ และ เลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ จนได้รับคะแนนสูงสุดถึง 8.4 ล้านเสียง และมีผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งครบทุกภูมิภาคของประเทศ
ย้ำว่า พรรคมีจุดยืน 3 ข้อ คือ
1.ยึดมั่นทำหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องรักษาประโยชน์ของประเทศและประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2.ขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง เคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ในทุกคะแนนเสียง ที่ได้เลือกผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดก็ตาม ไม่ควรที่จะนำไปกล่าวอ้างว่าประชาชน ที่สนับสนุนฝ่ายตนเองเป็นฝ่ายที่ชอบธรรมแต่ฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะจะนำไปสู่การแบ่งแยกพี่น้องประชาชน อันอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมเหมือนเดิม
3.พรรคมีจุดยืนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลว่า ทุกพรรคการเมืองสามารถรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ในระหว่างที่ กกต. ยังไม่ได้ประกาศ และรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ดังนั้น การรวบรวมเสียง ส.ส.เพื่อตั้งรัฐบาล ย่อมยังจะไม่ส่งผลทางการเมืองที่จะประกาศชัดเจน ว่าขั้วการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีเสียงสนับสนุนครบถ้วนถูกต้องแล้ว รวมถึงพรรคเองมีข้อกังขาไปถึง กกต. เช่นกัน ทั้งในเรื่องการประกาศคะแนนที่ล่าช้า
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า มีการซื้อตัว ว่าที่ ส.ส. ของแต่ละพรรคการเมืองมาอยู่ฝั่งพรรคพลังประชารัฐเรื่องนี้ นายอุตตม ยืนยันว่า ไม่มีการซื้อตัวแต่อย่างใด
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า ขณะนี้เชื่อว่าทางพรรคเพื่อไทยคะแนนไม่เกินกึ่งหนึ่งที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วนพลังประชารัฐอยู่ในระหว่างเจรจาพรรคการเมืองเข้าร่วมในการจัดตั้ง
รายงานข่าวระบุว่า ในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐ ได้มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง ภาคเหนือเดินสายทาบทามพรรคเล็ก โดยเฉพาะพรรคเล็กที่ได้ ส.ส. 1-2 ที่นั่ง ล่าสุดมีรายงานว่ามีการจับกลุ่มกันของ 12 พรรคการเมือง ที่รวมกันแล้วมีจำนวน ส.ส. 13 ที่นั่ง เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองโควตารัฐมนตรี
ส่วน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ได้ ส.ส. 5 ที่นั่ง ได้หันไปจับมือกับพรรคชาติพัฒนา ที่ได้ ส.ส. 3 ที่นั่ง และพรรคพลังท้องถิ่นไท ที่ได้ 3 ที่นั่ง รวมเป็น 11 ที่นั่ง เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองโควตารัฐมนตรี โดยทั้งสามได้หารือกันเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และในวันที่ 1 เม.ย.นี้ พรรคชาติพัฒนาจะมีการประชุมพรรคเพื่อหารือเรื่องนี้