svasdssvasds

หัวเว่ยชี้สหรัฐฯประเมินต่ำเกินไป-สื่อมะกันมองทรัมป์เดินเกมพลาด

หัวเว่ยชี้สหรัฐฯประเมินต่ำเกินไป-สื่อมะกันมองทรัมป์เดินเกมพลาด

ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ยระบุว่าสหรัฐฯประเมินหัวเว่ยต่ำเกินไป ในขณะที่สื่อชั้นนำของสหรัฐฯชี้ การพุ่งเป้าโจมตีหัวเว่ยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นเป็นความผิดพลาดอย่างมหนันต์

หลังสหรัฐฯขึ้นบัญชีหัวเว่ยเป็นบริษัทต่างชาติที่บริษัทอเมริกันไม่สามารถทำการค้าด้วยได้ยกเว้นได้รับการอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯก่อน นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย กล่าวกับสื่อจีนว่า การกระทำของนักการเมืองสหรัฐฯในขณะนี้เป็นการประเมินความแข็งแรงของหัวเว่ยต่ำเกินไป

นายเหรินยังระบุว่า เชาเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ก็ยังไม่มีใครสามารถตามเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ยได้ทัน

แม้ว่าต่อมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯได้อนุญาตให้บริษัทอเมริกันสามารถทำการค้ากับหัวเว่ยได้เป็นการชั่วคราว 90 วันเพื่อให้ปฏิบัติการที่มีอยู่แล้ว ยังใช้การได้สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์และเครือข่ายบรอดแบรนด์ของหัวเว่ย แต่นายเหรินไม่ได้สนใจในท่าทีดังกล่าว และกลับระบุว่า หัวเว่ยได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วก่อนหน้าที่สหรัฐฯจะมีมาตรการเหล่านี้

ขณะที่กองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์บลูมเบิร์กได้ออกบทความวิเคราะห์ระบุว่า การตัดสินใจแบนหัวเว่ยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯนั้นเป็นการเดินเกมที่ผิดพลาด

บลูมเบิร์กระบุว่า หากมีการบังคับใช้มาตรการห้ามบริษัทอเมริกันทำการค้ากับหัวเว่ยโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเข้มงวดจริง จะทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนถึงขั้นล้มได้ และกระทบพนักงานมากกว่า 180,000 ชีวิต

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะถือเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง และเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง บริษัทต่างๆทั่วโลก รวมถึงซัพพลายเออร์อเมริกันเอง ก็อาจต้องล้มตามไปด้วย และนำไปสู่ต้นทุนใหม่ที่สูงขึ้น ขณะที่บรรดาชาติพันธมิตรต่างเคยยืนยันแล้วว่า การที่สหรัฐฯกดดันหัวเว่ย ยิ่งแต่จะทำให้ให้เกิดภาวะหลังชนฝา แม้ว่านายทรัมป์จะมีท่าทีผ่อนปรนทีหลัง แต่จีนก็คงไม่เชื่อว่าสหรัฐฯจะไม่นำมาตรการเหล่านี้กลับมาใช้อีก จุดนี้เอง จะยิ่งเป็นแรงผลักให้จีนพยายามในการผลิตเทคโนโลยีล้ำสมัยใช้เองให้ได้

นอกจากนี้ แม้ทางการสหรัฐฯจะยืนยันว่า มาตรการนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจาสงครามการค้ากับจีนที่ชะงักงันในขณะนี้ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เชื่อได้ว่านายทรัมป์กำลังใช้หัวเว่ยเป็นหมากต่อรอง และที่ผ่านมา เขาก็ใช้ประเด็นเรื่องความมั่นคงมาต่อรองบ่อยเกินไปแล้ว การทำเช่นนี้อีก จึงยิ่งจะทำให้เกิดทางตัน

ที่แย่ไปกว่านั้น การเจรจาระหว่างจีนและสหรัฐฯนั้นไม่ใช่มีแค่เรื่องการเพิ่มยอดการค้า แต่ต้องหมายถึงการทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติทรงอิทธิพลของโลกเสถียรด้วย แม้ว่าการเจรจาจะตึงเครียด แต่จำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าที่ให้ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ นำไปสู่ความมั่นคงและการร่วมมือกัน

ในทางตรงกันข้าม การพุ่งเป้าโจมตีหัวเว่ยของนายทรัมป์นั้น กลับทำให้ผู้นำจีนสายกลางต้องเดินเข้าสู่สายเหยี่ยวมากขึ้น ในขณะที่สำหรับคนจีนทั่วไป ก็จะมองสหรัฐฯในเชิงลบมากขึ้นว่าเป็นชาติที่พยายามจำกัดการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน

บลูมเบิร์กระบุด้วยว่า เกมนี้ดูเหมือนจะล้มเหลวด้วย หากจะใช้หมากนี้ สหรัฐฯต้องมีแผนจบที่ชัดเจนกว่านี้ และสิ่งที่สหรัฐฯควรทำ ก็คือ การมีแผนที่นำไปสู่การอยู่ร่วมกันกับจีนในบรรยากาศที่ดีขึ้น เช่น การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯเอง การทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรในการกดดันจีนให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบสากล และเป็นผู้นำในการร่างกฎระเบียบใหม่ที่ยับยั้งชาติที่มีพฤติกรรมไม่น่าคบ มากกว่าการพุ่งเป้าขยี้หัวเว่ย ซึ่งดูเป็นกลยุทธ์ที่คำนวนผิดพลาดนั่นเอง

related