ล่าระทึก! แก๊งขนต่างด้าว ซิ่งแหก 4 ด่านชุมพร
ตำรวจชุมพรไล่ล่าระทึกแก๊งขนต่างด้าวซิ่งฝ่า 4 ด่านตรวจ ถูกยิงสกัดยางล้อแตก 3 เส้นยังไม่สิ้นฤทธิ์ ต้องใช้รถสายตรวจขวางหน้า จนถูกพุ่งชนเสียหาย ก่อนที่คนขับจะกระโดดวิ่งหนีเข้าป่าไปได้
รถกระบะสองตอนต้องสงสัย ถูกเจ้าหน้าที่สกัดเอาไว้ได้ หลังใช้รถสายตรวจตำรวจทางหลวงขับปาดหน้า ทำให้ถูกพุ่งชนเสียหายใต้สะพานสี่แยกปฐมพร จ.ชุมพร
ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.อ.สาวิทย์ ขุนแทน รองสารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 2 ชุมพร พร้อมชุดปฏิบัติการได้วางกำลังสกัดจับแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าว หลังสืบทราบจะมีการลักลอบขนแรงงานเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ
กระทั่งพบรถต้องสงสัย เป็นรถกระบะ สองตอน สีขาว ทะเบียน 5กข 9001 กรุงเทพมหานคร ติดฟิล์มสีดำทึบ ขับอยู่บนถนนเพชรเกษม ช่องทางขาล่องใต้ ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณเพื่อขอตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องฝ่าด่านตรวจไปอย่างรวดเร็ว
ตำรวจทางหลวงจึงประสานด่านตรวจสี่แยกปฐมพร ช่วยสกัดจับ แต่รถคันดังกล่าว กลับเร่งความเร็วฝ่าด่านตรวจ จนตำรวจต้องกระโดดหนีกันไปคนละทิศคนละทาง
จึงวิทยุประสานขอกำลังสนับสนุน และประสานป้อมตำรวจขุนกระทิง ป้อมตำรวจทุ่งคา และป้อมตำรวจบ้านวิสัยเหนือ ให้ช่วยกันตั้งด่านสกัด แต่รถคันดังกล่าวยังฝ่าไปได้ทุกด่าน เจ้าหน้าที่จึงไล่ล่าไปอย่างกระชั้นชิดเกือบ 30 กิโลเมตร จนถึงเขตติดต่ออำเภอสวี
เมื่อรถกระบะต้องสงสัย เห็นจวนตัว ได้เลี้ยวกลับในช่องทางขาขึ้น วกไปทางเดิม แล้วเลี้ยวไปทาง จ.ระนอง อีก 20 กิโลเมตร ก่อนจะเลี้ยวกลับทางเดิม จนถึงหน้า บขส.ตำบลขุนกระทิง แล้วเลี้ยวกลับขึ้นสี่แยกปฐมพร เจ้าหน้าที่จึงยิงล้อยางจนแตกไป 3 เส้น แต่รถคันดังกล่าวยังไม่ยอมหยุด
โดยฝืนขับต่อไปจนถึงใต้สะพานสี่แยกปฐมพร รถยนต์สายตรวจตำรวจทางหลวงหมายเลข 2420 และ 2409 ได้ตัดสินใจขับปาดหน้าขวางทางไว้ ทำให้รถของคนร้ายพุ่งชนประตูด้านขวาของรถสายตรวจ หมายเลข 2420 เสียหาย ส่วนคนขับรถอาศัยจังหวะชุลมุนเปิดประตูวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการไล่ล่าจับกุมนานเกือบ 1 ชั่วโมง โดยรถคันนี้สามารถฝ่าด่านตรวจตำรวจไปได้ถึง 4 ด่าน
จากการตรวจสอบภายในรถ พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ นั่งอัดกันมา 12 คน เป็นชาย 11 คน หญิง 1 คน อายุระหว่าง 15-38 ปี ทุกคนอยู่ในอาการตกใจกลัว ตรวจค้นในรถพบเอกสารเชื่อมโยงถึงผู้ครอบครองรถและคนขับรถหลายรายการ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับควบคุมตัวชาวเมียนมาร์ไปสอบสวนขยายผลที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร
เบื้องต้น ชาวเมียนมาร์ เล่าว่า ได้จ่ายเงินให้นายหน้าหัวละ 21,000 บาท พาเดินลัดเลาะตามป่าเขานาน 4 วัน จนถึงชายแดนด้านตำบลอ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้พาไปส่งชายแดน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อจะเดินทางต่อยังประเทศมาเลเซีย
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวต่างด้าวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร และอยู่ระหว่างเร่งรวบรวบพยานหลักฐานเตรียมออกหมายจับคนขับรถที่หลบหนีและเครือข่ายที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
