รื้อโควตา ครม. สามมิตรทวงคืน คมนาคม-เกษตรฯคืน ให้บิ๊กตู่ชี้ขาด

ความเคลื่อนไหวการจัดตั้งรัฐบาลได้กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง หลังจบการโหวตพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ซึ่งในดีลแรกพรรคประชาธิปัตย์ได้กระทรวงพาณิชย์, เกษตรและสหกรณ์ และการพัฒนาสังคมฯ ส่วนภูมิใจไทย ได้คมนาคม, สาธารณสุข และท่องเที่ยวและกีฬา

ล่าสุด ! ทุกพรรคยังยืนยันเงื่อนไขเดิม ใช้ระบบพรรคการเมือง โดยผู้บริหารพรรคจะเป็นผู้เจรจาพูดคุย แล้วนำเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และจะมีการแถลงความชัดเจนจากนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในเร็ว ๆ นี้ แต่หากไม่ลงตัว พรรคจะโยนสิทธิ์ชี้ชาดให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ตัดสินใจ แต่มีแกนนำ พปชร. บางส่วนเห็นว่า ที่ผ่านมาได้เสียรู้เก้าอี้ประธานสภาฯให้ประชาธิปัตย์ถือว่ามากพอแล้ว หากต้องเสียกระทรวงสำคัญอีกคงรับไม่ได้

มีรายงานข่าวอีกว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ไม่พอใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า หากเสียกระทรวงหลักไป พปชร. อาจจะทำงานไม่ได้ และจากปัญหาสุขภาพอาจส่งผลให้นายสมคิดตัดสินใจไม่ร่วมรัฐบาลอีกต่อไป ขณะที่แกนนำ พปชร. เปิดเผยว่าหากมีเก้าอี้รัฐมนตรีตำแหน่งใดลงตัวแล้ว ก็จะทยอยส่งให้พล.ประยุทธ์ พิจารณา

ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคจะดึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กลับมาว่า หากไม่ได้กระทรวงตามที่ได้ไปหาเสียงไว้ ก็ถือเป็นความเสียหายในภาพรวม แต่ส่วนตัวคงไม่ติดใจ ต้องยอมรับว่ามีทั้งคนผิดหวังและสมหวัง

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ทุกพรรคได้วางตัวบุคคลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไว้แล้ว และจะส่งรายชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น เป็นสิทธิ์ของพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล โดยโควตารัฐมนตรีของแต่ละพรรค ยังคงเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ แต่อาจมีปรับเปลี่ยนได้บ้าง แต่ไม่ยืนยันว่าจะเป็นในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ หรือไม่