ผู้จัดการชุมนุมประท้วงในฮ่องกงกล่าวว่า มีชาวฮ่องกงที่ต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีน เข้าร่วมการชุมนุมเกือบ 2 ล้านคน
แกนนำผู้จัดการชุมนุมประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีน ระบุว่ามีชาวฮ่องกงเข้าร่วมการชุมนุมเกือบ 2 ล้านคน ซึ่งหากเป็นความจริงจะถือว่าเป็นการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกาะฮ่องกง ในขณะที่ตำรวจระบุว่าในช่วงพีคสุดของการชุมนุมมีผู้ประท้วงเข้าร่วม 338,000 คน
การชุมนุมประท้วงเมื่อช่วงค่ำวานนี้ส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความสงบ โดยตำรวจยอมให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่านตามถนนในตัวเมือง ซึ่งแตกต่างจากภาพการชุมนุมเมื่อวันพุธที่แล้วอย่างสิ้นเชิง ที่ผู้ชุมนุมปะทะเดือดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน
แม้ว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานางแคร์รี่ หลำ ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้ประกาศยอมพักการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวที่อื้อฉาวนี้ออกไปก่อน พร้อมกล่าวขอโทษสำหรับการผลักดันร่างกฎหมายโดยยอมรับว่าการทำงานของรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพจึงทำให้เกิดเรื่องอื้อฉาวและความขัดแย้งที่ทำให้ประชาชนผิดหวัง แต่จนถึงเช้าวันนี้ผู้ชุมนุมก็ยังคงออกมารวมตัวประท้วงกันอยู่ โดยพวกเขาเรียกร้องให้นางแคร์รี หลำ ลาออกจากตำแหน่ง รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกร่างกฎหมายดังกล่าวไปเลย ไม่ใช่เพียงแค่ระงับเอาไว้ก่อน
มีรายงานว่า นางหลำได้พบกับรองนายกรัฐมนตรีของจีน ก่อนที่จะประกาศท่าทีใหม่ ซึ่งสื่อของฮ่องกง เดอะ เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ วิเคราะห์ว่า แม้ผู้ชุมนุมจะกดดันให้นางหลำลาออก แต่รัฐบาลจีนจะทำทุกทางเพื่อสนับสนุนนางหลำต่อไปแม้หลังจากนี้การทำงานของเธออาจไม่ง่ายอีกต่อไป
ในขณะเดียวกัน นายโจชัว หว่อง นักศึกษาและนักเคลื่อนไหวแกนนำการชุมนุมประท้วง การปฏิวัติร่ม ในฮ่องกงเมื่อ 5 ปีก่อน ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้วในวันนี้ หลังถูกคุมขังเป็นเวลานานเกือบ 5 สัปดาห์ โดยนายโจชัว หว่อง ประกาศว่าจะเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่เรียกร้องให้นางแคร์รี หลำ ลาออกจากตำแหน่ง