กลุ่ม 13 ส.ส. ภาคใต้พรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เข้าชิงโควต้ารัฐมนตรี ขณะทีแกนนำกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันไม่เคยตั้งก๊วนต่อรองเก้าอี้ในคณะรัฐมนตรี ย้ำกลุ่มทำงานเป็นหนึ่งเดียวกับพรรค
วันนี้ (17 มิ.ย.) เวลา 15.00 น.ได้มีการเปิดสำนักงานที่ทำการ “กลุ่มด้ามขวานไทย” ที่เกิดจากการรวมตัวของ 13 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในภาคใต้ ซึ่งมีแก่นหลักประกอบด้วย พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีต สปช. ซึ่งได้รับบทบาทให้ดูแลเลือกตั้ง ส.ส.ในภาคใต้ครั้งล่าสุด และได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนเสนอรายชื่อนั่งเป็นรัฐมนตรีของตัวแทนกลุ่ม
ขณะที่ท่าทีทางการเมืองของกลุ่มภายหลังทราบข่าวว่า กลุ่มด้านขวานไทยแม้จะมีจำนวน ส.ส.ในภาคใต้ถึง 13 คน แต่กลับถูกละเลยไม่ได้รับการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีให้แม้แต่ตำแหน่งเดียว
นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน ส.ส.ภาคใต้ของพรรค เปิดเผยว่า หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนภาคใต้ที่สนับสนุนกลุ่ม 13 ส.ส. ต้องการเห็นตัวแทนของกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารเพื่อจะขับเคลื่อนนโยบายที่หาเสียงไว้และอยากให้พรรคพลังประชารัฐเห็นความสำคัญของกลุ่มด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากกลุ่ม 13 ส.ส. ไม่มีตำแหน่งบริหารใน ครม.ในอนาคตพรรคพลังประชารัฐในภาคใต้อาจสูญพันธ์ สำหรับมติของกลุ่มได้เสนอชื่อ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เข้าเป็นรัฐมนตรี หรือตามที่นายกเห็นสมควร ว่า ทั้ง 13 คนใครเหมาะสมที่จะเข้าไปนั่งทำงานบริหาร โดยยืนยันว่า ไม่ได้เข้ามากดดันและต่อรองรัฐบาล
ขณะเดียวกัน ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับกันว่าการมีกลุ่มในสภาเป็นความจำเป็นและเป็นปกติในการทำงาน เพื่อนำนโยบายเข้าสู่พรรคและเข้าสู่สภาตามลำดับ ที่สำคัญให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจการตัดสินใจคัดเลือกผู้ที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แต่หากรายชื่อที่กลุ่มเสนอไม่ได้ถูกคัดเลือก ก็ต้องตอบประชาชนให้ได้ว่าเพราะเหตุใด
ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ตัวเขาและนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตรอีกคน ไม่เคยตั้งกลุ่มก๊วนต่อรอง หรือ สร้างประเด็นตีรวนอะไรใดๆทั้งสิ้นในเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี
โดยระบุว่า ตัวเขาไม่มีอำนาจไปต่อรองใดๆ และไม่รู้ว่าข่าวที่ออกมา เป็นเพราะต้องการให้ร้าย ให้คนในสังคมเข้าใจว่า ตัวเขา และกลุ่มสามมิตรคือตัวปัญหาหรือไม่ และยืนยันว่า เขาได้ทำงานการเมืองในนามกลุ่มสามมิตร ก่อนจะมีพรรคพลังประชารัฐ เมื่อตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรค จึงนำปัญหาต่างๆ ที่ได้รวบรวมมาทำเป็นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกร และไม่เคยจับจองกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามกระแสข่าว โดยมองว่า คนที่ออกมาโจมตี เป็นเพราะเสียประโยชน์ และย้ำว่า การจัดตั้งรัฐบาลขอให้เป็นหน้าที่ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจสิทธิขาดเพียงคนเดียว อย่าเล่นใต้ดิน อย่ากวนโคลนในน้ำ ให้น้ำขุ่น และระบุว่า หากใครให้ข้อมูลทำร้ายอีก คงต้องพึ่งกฎหมาย