svasdssvasds

กรมชลฯ สั่งระดมเปิดทางน้ำส่งผลิตประปา-เพาะปลูก

สถานการณ์ภัยแล้ง เขื่อนป่าสักฯ เข้าขั้นวิกฤต!! เหลือน้ำใช้ได้อีกเพียงอีก 30 วัน ขณะที่อธิบดีกรมชลฯสั่งทุกพื้นที่เร่งช่วยเหลือเกษตรกร ประชาชน ระดมเปิดทางน้ำส่งผลิตประปาและพื้นที่เพาะปลูก หลายจังหวัดขาดแคลนน้ำกินใช้หลังประสบภาวะฝนทิ้งช่วง

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าได้สั่งการให้สำนักงานโครงการชลประทานทั่วประเทศเร่งช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่โดยด่วน เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้หลายจังหวัดประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ส่งผลกระทบน้ำอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน

กรมชลฯ สั่งระดมเปิดทางน้ำส่งผลิตประปา-เพาะปลูก

สำนักงานชลประทานที่ 8 เร่งวางแนวทางจัดหาแหล่งน้ำช่วยผลิตประปา ด้วยการขุดร่องชักน้ำเข้าสู่หัวงานของการประปาส่วนภูมิภาค พร้อมกับสูบน้ำบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบ นอกจากนี้ยังเตรียมผันน้ำผ่านทางคลอง-ร่องน้ำ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน โดยจะนำเครื่องจักร-เครื่องมือเข้าไปขุดเปิดร่องชักน้ำเพื่อเปิดทางน้ำด้วย

กรมชลฯ สั่งระดมเปิดทางน้ำส่งผลิตประปา-เพาะปลูก

ด้านนายอรรถพร ปัญญาโฉม ผู้อำนวยการจัดสรรน้ำสำนักงานชลประทานที่ 10 จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า มีรายงานสถานการณ์น่าเป็นห่วงอีกหนึ่งอย่าง คือ “น้ำ” ภายในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เนื่องจากไม่มีน้ำไหลลงเขื่อนป่าสัก เข้าสู่เดือนที่ 3 แล้ว ทำให้ปริมาณน้ำสะสมในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือน้ำแค่ 48 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 5 เปอร์เซ็นต์ ของความจุเต็ม ที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ทางเขื่อนจำเป็นต้องระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ วันละ 1.3 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรักษาระบบนิเวศ และช่วยเหลือด้านน้ำอุปโภคบริโภค ท้ายเขื่อน

กรมชลฯ สั่งระดมเปิดทางน้ำส่งผลิตประปา-เพาะปลูก

หมายความว่าน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะเหลือใช้ได้แค่ 30 วันเท่านั้น และจะแห้งขอดทันที หากยังไม่มีฝนตกลงมา เบื้องต้นทางสำนักงานชลประทานที่ 10 นำเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าแรงดันสูงไปติดตังเพื่อสูบน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก เพิ่มขึ้น เพื่อรักษาระดับน้ำเอาไว้ให้เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาจนถึงสิ้นเดือน คาดว่าจะมีฝนตกลงมาและสถานการณ์จะกลับเป็นปกติ

กรมชลฯ สั่งระดมเปิดทางน้ำส่งผลิตประปา-เพาะปลูก

ทั้งนี้ไม่ได้มีแค่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่น่าเป็น ข้อมูลจากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.) แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 18 เขื่อน มีน้ำใช้การน้อยขั้นวิกฤต ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ (-0%),เขื่อนสิรินธร(2%),เขื่อนป่าสักฯ(5%),เขื่อนจุฬาภรณ์(5%),เขื่อนคลองสียัด(6%),เขื่อนสิริกิติ์(6%),เขื่อนภูมิพล(7%),เขื่อนกระเสียว(9%),เขื่อนแควน้อย(11%),เขื่อนแม่กวง(12%),เขื่อนขุนด่านปราการชล(13%),เขื่อนทับเสลา(13%),เขื่อนลำพระเพลิง(14%),เขื่อนน้ำพุง(15%),เขื่อนนฤบดินทรจินดา(16%),เขื่อนวชิราลงกรณ(17%),เขื่อนห้วยหลวง(18%),เขื่อนศรีนครินทร์(19%)

กรมชลฯ สั่งระดมเปิดทางน้ำส่งผลิตประปา-เพาะปลูก

related