"LGBT "เเดนอิเหนาเรียกร้อง  "เสรีภาพในการดำเนินชีวิต" 

วันที่ 2-7-60-แม้พฤติกรรมรักร่วมเพศจะไม่ผิดกฎหมายในอินโดนีเซีย แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ในอินโดนีเซียที่มีกลุ่มมุสลิมสายอนุรักษ์นิยมต่อต้านกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายอยู่ ทำให้พวกเขาต้องดำรงชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆจากสังคม 

"อาดีย์และอาเหม็ด"ชายรักชายคู่หนึ่งที่อาศัยอยู่ในกรุงจาการ์ต้า แสดงความกังวลต่อสังคมอินโดนีเซียที่ไม่มีความผ่อนปรนต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลาย ( LGBT )ทำให้ต้องใช้ชีวิตแบบปกปิดในสิ่งที่พวกเขาเป็น หรือบางคนก็ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานไปประเทศอื่นในที่สุด  

การรักเพศเดียวกันไม่ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชาติมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่มีข้อยกเว้นสำหรับ จังหวัดอาเจะห์ ซึ่งปกครองโดยกลุ่มมุสลิมสายเคร่ง ล่าสุดมีชายชาวอาเจะห์สองคนถูกเฆี่ยนต่อหน้าสาธารณชนในข้อหามีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความพยายามจากกลุ่มมุสลิมสายเคร่งอื่นๆเรียกร้องให้มีการกำหนดให้การมีเพศสัมพันธ์ของคนเพศเดียวกันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย  

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ทางการอินโดนีเซียยังควบคุมตัวชายทั้งหมด 141 คนที่ซาวน่าแห่งหนึ่ง ด้วยข้อหาเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีเกย์  

 "เฟอร์นานเดซ เชียร์ฮานต์" กล่าวว่า"จริงๆแล้วผมได้ยินจากตำรวจว่าตำรวจจับตามองกิจกรรมการค้าประเวณีภายในที่แห่งนี้  

หลังได้รับรายงานจากคนในท้องถิ่นเพราะพวกเขารู้สึกกังวล และผมคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่ตำรวจบุกตรวจค้นในช่วงเดือนรอมฎอน" 

นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทางการอินโดนีเซียยังได้ปิดล้อมโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับสองในเมืองสุราบายา หลังพบว่ามีการจัดงานสังสรรค์ของกลุ่มคนรักร่วมเพศ และได้นำตัวชายประมาณ 14 คนไปตรวจหาการติดเชื้อ HIV หรือ เชื้อไวรัสเอดส์ ก่อนจะเปิดเผยผลการตรวจสู่สาธารณชน  

อย่างไรก็ตาม ตำรวจอินโดนีเซียออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา จงใจพุ่งเป้าไปยังกลุ่ม LGBT แต่ก็เรียกร้องบรรดากลุ่ม LGBT อย่าแสดงออกถึงรสนิยมทางเพศอย่างเปิดเผยมากนัก  

"ราเฟล เด คอสต้า "แกนนำกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ  กล่าวว่า"ตอนนี้พวกเราเห็นว่าการปกป้องกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศจากรัฐบาลยังไม่เพียงพอ พวกเรามีอิสระในการจัดตั้งองค์กร และมีสิทธิแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ แต่พื้นที่ของพวกเรากลับถูกจำกัดมากยิ่งขึ้น"  

แกนนำนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของกลุ่ม LGBT ในเมืองสุราบายา กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ทางการเมือองของกลุ่ม LGBT ถูกจำกัดลงไปมาก แม้กระทั่งในรูปแบบด้านการศึกษา ที่ไม่มีการสอนเรื่องเพศศึกษาที่ปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย  

ก่อนหน้านี้"ยุซูฟ คัลลา" อดีตรองประธานาธิบดีอินโดนีเซียเคยเรียกร้องโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ( UNDP) ให้หยุดสนับสนุนเงินนต่อกลุ่ม LGBT ในอินโดนีเซีย ขณะที่รมว.กลาโหมอินโดนีเซียกล่าวว่าพฤติกรรมรักร่วมเพศนั้นเปรียบเสมือนสงครามตัวแทนซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากชาวต่างชาติ  

ทั้งนี้ศูนย์วิจัยพิวเคยสำรวจในปี 2013 พบว่าชาวอินโดนีเซียที่ตอบแบบสอบถามถึง 93% ไม่เห็นด้วยกับการยอมรับกลุ่มคนรักร่วมเพศ  

ประเด็นการผ่อนปรนต่อความแตกต่างทางศาสนาและความหลากหลายของสังคมอินโดนีเซียนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจากกรณีของ"บาสุกี จาฮายา เปอร์นามา"ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาคนแรกที่มีเชื้อชาติจีนและนับถือศาสนาคริสต์ ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาฐานดูหมิ่นศาสนาอิสลาม