ผู้นำสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์เมื่อคืนนี้ ยืนยัน สถานการณ์อยู่ในการควบคุม สิงคโปร์ ไม่ปิดประเทศ และคาดว่าจะพบผู้ติดเชื้อทีติดมาจากประเทศอื่นเพิ่มขึ้น แต่จะใช้มาตรการควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวด
นายกรัฐมนตรี ลี เซียงลุง ของสิงคโปร์ แถลงการณ์สถานการณ์ผ่านการถ่ายทอดสดสถานีโทรทัศน์คืนวานนี้ ระบุว่า สิงคโปร์ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และแม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พบเพิ่มขึ้น จะมาจากการติดเชื้อจากนอกประเทศ แต่สิงคโปร์จะ ไม่ปิดประเทศ
แต่สิ่งที่ต้องทำเป็นพื้นฐาน เพราะ โควิด-19 จะยังอยู่กับเราไปอีกนาน คือทุกคนต้องทำให้คุ้นชินกับการรักษาสุขอนามัย ปรับตัวกับมาตรฐานสังคมใหม่ ไม่สนับสนุนให้มีการรวมตัวกันจำนวนมาก และพยายามอยู่ห่างจากกันและกัน และนี่คือเหตุผลที่สิงคโปร์ได้ลดการจัดกิจกรรมชุมชน โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ สิ่งที่ควรทำเพิ่มเติม คือจำกัดการรวมตัวกันเพื่อกิจกรรมทางศาสนา เพราะเชื้อไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเมื่อคนอยู่รวมตัวกันอย่างแออัด ลี เซียงลุงได้ยกตัวอย่างกรณีการแพร่ระบาทที่โบสถ์ในเมืองแทกูของเกาหลีใต้ และวาติกันหันมาประกอบพิธีและถ่ายทอดสดออนไลน์แทน
ลี เซียงลุง ระบุว่า สิงคโปร์ต้องมีแผนรับมือหากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงมาก เพราะจะไม่สามารถรับทุกคนเข้าโรงพย่าบาลหรือศูนย์กักกันโรค แต่ 80 เปอร์เซ็นต์ของคนที่มีเชื้อไวรัส จะมีอาการอ่อนๆ เท่านั้น โดยกลุ่มที่เสี่ยงที่สุดคือผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัวอย่างความดันสูง หรือป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับปอด ดังนั้น โรงพยาบาลควรจะรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น เพื่อที่จะได้ให้ความสนใจกับคนที่ป่วยหนักเต็มที่
ผู้นำสิงคโปร์ตอกย้ำว่า สถานการณ์ควบคุมได้ จะไม่มีการปิดเมืองเมืองอย่างที่ทำใน จีน. เกาหลีใต้ หรืออิตลี สิ่งที่ทำตอนนี้คือวางแผนล่วงหน้า กับมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น และทดลองใช้ เพื่อเตรียมชาวสิงคโปร์ให้พร้อมรับสถานการณ์ หากจำเป็นต้องใช้จริง
นอกจากนี้ ผู้นำสิงคโปร์ยังได้กล่าวถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ ว่าจะได้ต้องเกิดขึ้นอย่างหนัก และได้เตรียมวบประมาณช่วยเหลือภาคเอกชน คนทำงาน และประชาชนทั่วไปไว้แล้ว
ลี เซียนลุงย้ำว่าที่ได้มาแบ่งปันข้อมูลกับประชาชน เพราะอยากให้ทุกคนรู้ว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การจัดการของรัฐบาล และคิดวางแผนไว้ล่วงหน้า สิงคโปร์คาดว่าจะต้องมีแรงกระทบทั้งทางด้านการแพทย์และเศรษฐกิจ แต่เชื่อมั่นว่ารับมือได้
สุดท้าย ผู้นำสิงคโปร์ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่การแพทย์ทุกคนที่นับเป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับโรคระบาด และขอบคุณประชาชนที่ทำตามคำแนะนำรัฐบาล ที่ให้ใส่หน้ากากเมื่อไม่สบายเท่านั้น หรือไม่ให้กังวลว่าซุปเปอร์มาเก็ตจะไม่มีของขาบ และเขาขอบคุณที่ชาวสิงคโปร์ไม่แตกตื่น และเชื่อใจและสนับสนุนรัฐบาล