svasdssvasds

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น ? เพจวิชาการ อธิบาย เพราะคิดเงินแบบอัตราก้าวหน้า

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น ? เพจวิชาการ อธิบาย เพราะคิดเงินแบบอัตราก้าวหน้า

สงสัยไหม ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น ? เพจน้องปอสาม อธิบายอย่างละเอียด เคลียร์ทุกข้อสงสัย

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น?

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น? ในช่วงที่หลายคนต้องอยู่บ้าน Work From Home แม้จะประหยัดค่าเดินทางไปทำงาน แต่รายจ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นๆ ก็คือค่าไฟ แม้เราต่างรู้ดีกันว่า ในสถานการณ์ที่ต้องอยู่บ้านแบบทั้งวันทั้งคืนเป็นแรมเดือนอย่างนี้ ยังไงๆ ค่าไฟก็ต้องสูงขึ้นแล้ว แต่หลายคนก็รู้สึกว่า มันแพงขึ้นในระดับที่ไม่ควรจะเป็น

เพื่อเคลียร์ข้อสงสัยดังกล่าวให้ชัดเจน เพจด้านวิชาการ “น้องปอสาม” ได้อธิบายอย่างละเอียดไว้ดังนี้

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น ? มาดูคำตอบแบบเปิดใจกันหน่อย

1. การไฟฟ้า คิดเงินแบบอัตราก้าวหน้ามาตลอด ใช้เยอะจ่ายเยอะ (ผู้ใช้ไฟสามารถดูรายละเอียด ตามอัตราค่าไฟฟ้าด้านล่าง)

2. ตัวแปรของค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น คือ หน่วยการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือ คุณใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเลยทำให้ราคามันก้าวกระโดด

3. หลายคนคงสงสัย ทำไมหน่วยการใช้ไฟฟ้าถึงขึ้นได้มากขนาดนี้ ? ไฟฟ้ามาทำอะไรกับมิเตอร์รึเปล่า ?

คำตอบคือ ไฟฟ้าไม่มีใครไปทำอะไรกับมิเตอร์ลูกค้าหรอก

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น ? เพจวิชาการ อธิบาย เพราะคิดเงินแบบอัตราก้าวหน้า

ทีนี้เราต้องมาดูพฤติกรรมของลูกค้าและคนในบ้าน ที่บอกว่าใช้ไฟเท่าเดิม ลองคิดนะ เปิดแอร์ เวลาเดิมทุกวัน 8.00 - 12.00 คุณเย็นเท่าเดิมจริง แต่ตัวที่ทำให้มิเตอร์ขึ้นหน่วยไวแค่ไหน อยู่ที่คอมเพลสเซอร์ข้างนอก

ถ้าอากาศข้างนอกร้อนแค่ไหน หน่วยการใช้ไฟก็ขึ้นไวเท่านั้น เพราะคอมเพลสเซอร์คุณทำงานหนัก ยิ่งถ้าเปิดแอร์พร้อมกันนะ เสียงคอมดังนานแค่ไหนนั่นแหละคือ ทำใจไว้เลย มิเตอร์กำลังหมุนอย่างแรง และนั่นคือ เงินที่คุณต้องจ่ายไป

เครื่องฟอกอากาศอีก แทบทุกยี่ห่อกินไฟ ลองตรวจสอบดูนะ ที่บอกประหยัดไฟ คือไม่ประหยัดเลย ยิ่งเปิดพร้อมแอร์ คูณกำลัง 2 ไปเลย

ตู้เย็น เห็นตั้งนิ่งๆ แบบนั้น กินไฟเราแบบเงียบๆ นะคะ หน้าที่ของตู้เย็นคือต้องทำความเย็นในช่องแช่อาหาร ตามอุณภูมิที่เรากำหนด เช่น เราตั้งไว้ที่ 1 องศา หลักการทำงานคือ ต้องทำยังไงก็ได้ให้ 1 องศาตลอดเวลา นั่นก็คอมเพลสเซอร์หลังตู้เย็นไงที่เป็นตัวทำงาน

- เปิดตู้เย็นบ่อยๆ เปลืองไฟจริง เพราะตู้เย็นสูญเสียอุณภูมิตอนเปิด

- แช่ของแบบไม่คิด ยัดๆ เข้าไป ก็เปลืองไฟจริง ต้องจัดระเบียบตู้เย็นกันบ้าง

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น ? เพจวิชาการ อธิบาย เพราะคิดเงินแบบอัตราก้าวหน้า

บ้านที่มีปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าส่วนมาก จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าดังนี้

1. แอร์ พร้อม คอมเพลสเซอร์

2. เครื่องฟอกอากาศ

3. พัดลมไอน้ำ

4. ตู้เย็น ยิ่งอัดของเยอะ คอมเพลสเซอร์ตู้เย็นที่ดังตลอดเวลานั่นแหละคือ กำลังกินไฟคุณ

ตู้เย็นที่ประหยัดไฟคือตู้เย็นที่แช่แค่เครื่องดื่มไม่เกิน 5 ขวดเท่านั้น ถึงจะได้จ่ายราคาต่อปีตามที่ร้านโฆษณา

สรุปคือ ไฟฟ้าไม่ได้ปรับ หรือ ทำอะไรทั้งนั้น ไม่ได้ฉวยโอกาสอะไรทั้งนั้น ไฟฟ้าการรันตีราคาให้แบบนี้

- ใช้ไปหน่วยที่ 0- 150 หน่วย จ่ายราคาหน่วยละ 3.2484 บาท

- ใช้ไปหน่วยที่ 151 - 400 หน่วย จ่ายราคาหน่วยละ 4.2218 บาท

- ใช้ไปหน่วยที่ 400 ขึ้นไป จ่ายราคาหน่วยนะ 4.4217 บาท

ตัวอย่างที่ 1

ใช้ไฟฟ้าไป 200 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้

150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท

50 หน่วยที่เหลือ × 4.2218 = 211.09 บาท

รวมเป็นเงิน = 698.35 บาท

(ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT)

ตัวอย่างที่ 2

ใช้ไฟฟ้าไป 400 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้

150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท

250 หน่วยที่เหลือ × 4.2218 = 1,055.45 บาท

รวมเป็นเงิน = 1,542.41 บาท

(ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT)

ตัวอย่างที่ 3

ใช้ไฟฟ้าไป 600 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้

150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท

250 หน่วยถัดมา × 4.2218 = 1,055.45 บาท

200 หน่วยที่เหลือ × 4.4217 = 884.34 บาท

รวมเป็นเงิน = 2,427.05 บาท

(ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT)

ตัวอย่างที่ 4

ใช้ไฟฟ้าไป 1,000 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้

150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท

250 หน่วยถัดมา × 4.2218 = 1,055.45 บาท

600 หน่วยที่เหลือ × 4.4217 = 2,653.02 บาท

รวมเป็นเงิน = 4,195.73 บาท

(ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT)

พอจะเห็นภาพชัดเจนกันขึ้นไหมครับ ว่าทำไมค่าไฟถึงได้สูงขึ้น

ภาพโดย mohamed Hassan จาก Pixabay

ภาพโดย Clker-Free-Vector-Images จาก Pixabay

related