นาทีระทึก วงจรปิดจับภาพไฟลุกท่วมถังออกซิเจนรถกู้ภัย คนไข้-จนท.หนีตายอลหม่าน ผอ.รพ.สั่งปิดอาคารตรวจสอบ ด้านกู้ภัย เตรียมเข้าพบ ผู้บริหาร รพ. ขอความเห็นใจ รถไม่มีประกัน
ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุรถกู้ภัยระเบิดมีไฟไหม้ภายในโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช อ.เมืองสุพรรณบุรี มีคนได้รับบาดเจ็บทรัพย์สินเสียหาย จึงไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิง
ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้รถตู้ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว อย่างรุนแรง มีทั้งญาติผู้ป่วยแพทย์พยาบาลวิ่งหนีตายกันอลหม่านเจ้าหน้าที่จึงรีบฉีดน้ำควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพลิงจึงสงบ
จากการตรวจสอบพบรถคันดังกล่าวเป็นรถสมาคมอาสาสมัครกู้ชีพและบรรเทาสาธารณภัย ของกู้ภัยอาสาสมัครเมืองสุพรรณบุรี มีการติดตั้งอุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัยครบแต่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดนอกจากนี้ยังฝ้าเพดานบริเวณที่จอดจอดได้รับความเสียหายจำนวนมากและมีผู้ได้รับบาดเล็กน้อย 2 คน
จากการสอบถามนายชาคริต อายุ 37 ปี อาสาสมัครเจ้าของรถ ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เล่าว่า ได้รับการว่าจ้างให้มารับคนไข้จาก รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช กลับบ้านที่ อ.บางปลาม้า โดยก่อนหน้านี้ได้ไปเปลี่ยนถังออกซิเจนที่ร้านแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุพรรณบุรี ที่ติดตั้งไว้ภายในรถเนื่องจากถังเก่าเสื่อมสภาพ หลังจากเปลี่ยนถังออกซิเจนเสร็จได้ขับรถเข้ามาจอดรอรับรับคนไข้โดยมีภรรยาและลูกสาวอายุ 1ขวบ7เดือนนั่งรออยู่ที่เบาะหน้า
ระหว่างนั้นได้เปิดวาล์วถังออกซิเจนเพื่อเตรียมพร้อมรับคนไข้ซึ่งมีอาการทางหายใจขณะกำลังเปิดวาล์วอยู่ทันใดนั้นได้เกิดประกายไฟลุกพรึบขึ้นบริเวณกลางตัวรถก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วภรรยาที่นั่งอยู่หน้ารถรีบอุ้มลูกหนีตายออกมาได้และพยายามใช้สายยางฉีดน้ำดับเพลิงแต่ไม่สามารถดับได้จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับก่อนที่เพลิงจะลุกลามโชคดีที่ภรรยาและลูกได้รับเจ็บเพียงเล็กน้อย
ทางด้านนพ.พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์ ผู้อำนวยการ รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราพยายามหาสาเหตุเพื่อที่จะป้องกันแต่อย่างไรก็ตามสาเหตุที่แท้จริงเราจะให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนตำรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและกำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยประเมินแต่เนื่องจากภายในอาคารมีแก๊สค่อนข้างเหม็นเรายังไม่ทราบชนิดว่าเป็นแก๊สชนิดไหน วันนี้เราจะใช้เครื่องดูดอากาศมาดูดกลิ่นแก๊สออกไปก่อน
ซึ่งในวันพรุ่งนี้เช้าเราจะประเมินอีกครั้งพร้อมกับใช้เครื่องมือมาตรวจจับแก๊สที่อาจจะเกิดอันตรายต่อคนไข้ ถ้าหากว่าไม่ปลอดภัยเราก็ยังไม่เปิดให้บริการ ส่วนจุดเกิดเหตุนั้นไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์แต่อย่างใดส่วนความเสียหายนั้นทางเจ้าของรถต้องเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้นับว่าโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต