svasdssvasds

กทม.สั่งเฝ้าระวังสูงสุด 16 คลัสเตอร์ จาก 19 เขตพื้นที่ หวั่นโควิด-19 ลุกลาม

กทม.สั่งเฝ้าระวังสูงสุด 16 คลัสเตอร์ จาก 19 เขตพื้นที่ หวั่นโควิด-19 ลุกลาม

ศบค. เผยวันนี้พบติดเชื้อใหม่ 2,473 ราย ในเรือนจำ 680 ราย ตายเพิ่ม 35 ราย อายุน้อยสุด 2 เดือน แคมป์คนงานหลักสี่ยังเพิ่มต่อเนื่องสะสม 1,107 ราย ติดเชื้อ 66% ติดตามเสี่ยงสูงอีก 586 ราย

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เผย วันนี้ประเทศไทยรายงานติดเชื้อเพิ่มจำนวน 2,473 ราย แยกเป็นจากระบบ รพ.และค้นหาเชิงรุก 1,770 ราย ในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 680 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 23 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 35 คน ระลอกเดือน เม.ย. ติดเชื้อสะสม 84,692 ราย เสียชีวิตสะสม 555 คน รักษาหาย 42,492 ราย ยังรักษา 42,988 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 1,150 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 384 ราย ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 113,555 ราย เสียชีวิตสะสม 649 ราย อัตราป่วยเสียชีวิต 0.57% 

ทารก 2 เดือนเสียชีวิต

ผู้เสียชีวิต 35 ราย 16 รายอยู่ในกทม. มี 2 ราย อยู่ใน จ.เชียงราย สงขลา สมุทรปราการ โดยมีโรคประจำตัว อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดสมอง โรคปอดเรื้อรัง เป็นต้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงเกิดจากคนในครอบครัว 20 ราย นอกนั้น เดินทางไปสถานที่ระบาด ไปสถานบันเทิง และมีอาชีพเสี่ยง อีกทั้งพบว่าเข้ารับการรักษานานสุด 38 วันตั้งแต่พบเชื้อและเสียชีวิต ขณะที่อายุค่ากลางอยู่ที่ 68 ปี โดยอายุน้อยสุด 2 เดือน และมากสุด 93 ปี 

10 จังหวัดติดเชื้อสะสมสูงสุด

• กรุงเทพมหานคร 28,657 ราย

• นนทบุรี 4,757 ราย

• สมุทรปราการ 4,329 ราย

• เชียงใหม่ 3,999 ราย

• ชลบุรี 3,768 ราย

• ปทุมธานี 2,467 ราย

• สมุทรสาคร 1,930 ราย

• ประจวบคีรีขันธ์ 1,522 ราย

• สุราษฎร์ธานี 1,459 ราย

• สงขลา 1,041 ราย 

3 จังหวัดป่วยใหม่ยังสูงกว่าหายป่วย

เมื่อมีการแยกผู้ป่วยที่ะบในประเทศรายพื้นที่ จากทั้งหมด 84,294 ราย พบว่า อยู่ในกทม.และปริมณฑล 43,117 ราย เรือนจำ 11,428 ราย และ 71 จังหวัด 29,749 ราย เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบจำนวนผู้ป่วยใหม่และผู้ที่หายป่วยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา(8-14พ.ค.) พบว่า กรุงเทพฯ ป่วยใหม่มากกว่าหายป่วย 1.2 เท่า นนทบุรี ป่วยใหม่มากกว่าหายป่วย 3.2 เท่า และสมุทรปราการป่วยใหม่มากกว่าหายป่วย 1.3 เท่า ส่วน ปทุมธานีและสมุทรสาครป่วยใหม่และหายป่วยใกล้เคียงกัน และนครปฐม ป่วยใหม่น้อยกว่าหายป่วย 0.8 เท่า เช่นเดียวกับในอีก 71 จังหวัดป่วยใหม่น้อยกว่าหายป่วย 0.9 เท่า ฉะนั้น การใช้เตียงส่วนใหญ่จะพบอยู่ในกทม.

23 จังหวัดไม่มีผู้ติดเชื้อใหม่

นอกจากนี้ การรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ มี 23 จังหวัดไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ ได้แก่ ขอนแก่น อุบลราชธานี พิษณุโลก ลำพูน ลำปางอ่างทอง นครพนม เพชรบูรณ์ ตราด น่าน กาฬสินธุ์ชุมพร พะเยา เลยอแพร่ อุตรดิตถ์ ชัยนาทหนองคาย พังงา อำนาจเจริญ หนองบัวลำภูบึงกาฬ และสตูล

 สำหรับกรณีแคมป์นงานหลักสี่นั้น พบว่า จากการคัดกรองเชิงรุก 1,667 ราย พบติดเชื้อ 1,107 ราย คิดเป็น 66.41% และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องติดตามอีก 586 ราย 

16 คลัสเตอร์กทม.เฝ้าระวังสูงสุด 

ทั้งนี้ พื้นที่กทม.มี 29 คลัสเตอร์ ใน 19 เขตที่ต้องเฝ้าระวัง โดยในจำนวนนี้แยกเป็น 16 คลัสเตอร์เฝ้าระวังสูงสุด ได้แก่ ตลาดห้วยขวาง/แฟลตดินแดง เขตดินแดง ประตูน้ำ /ชุมชนริมคลองสามเสน /แฟลตรถไฟมักกะสัน เขตราชเทวี แคมป์ก่อสร้าง เขตหลักสี่ สี่แยกมหานาค/ สะพานขาวตลาดผลไม้ เขตดุสิต คลองถมเซ็นเตอร์ /เสือป่า/ วงเวียน 22 /วรจักร/ โบ๊เบ๊ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ที่พักคนงานก่อสร้าง/ชุมชนแออัดคลองเตย เขตคลองเตย สีลม เขตบางรัก ชาวกินี เขตสาทร ปากคลองตลาด เขตพระนครตลาดบุญเรือง เขตประเวศ ตลาดศาลาน้ำร้อน เขตบางกอกน้อย และชุมชนโรงปูน เขตห้วยขวาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาครัฐ เอกชนและประชาชนในพื้นที่ต้องร่วมมือช่วยกัน 

1 คลัสเตอร์ใหม่ตลาดยิ่งเจริญ 

4 คลัสเตอร์ต้องเฝ้าระวัง คือ แคมป์คนงานก่อสร้าง 2 แห่งอยู่ติดกัน เขตวัฒนา ร้านเฟอร์นิเจอร์ เขตสวนหลวง ราชทัณฑ์ เขตจตุจักรบริษัทไฟแนนซ์ เขตราชเทวี 1 คลัสเตอร์ใหม่ คือ ตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน และ 8 คลัสเตอร์แนวโน้มควบคุมสถานการณ์ได้ คือ ชุมชนแออัดซอยสุพจน์อุทิศ เขตทวีวัฒนา ชุมชนบ่อนไก่ เขตปทุมวันบริษัทขายตรงตึกเอ็มไพร์ เขตสาทร ชุมชนวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย สำเพ็ง เขตสัมพันธวงศ์ บริษัทรถทัวร์ เขตจตุจักร บริษัทประกันลาดปลาเค้า เขตลาดพร้าว และชุมชนโมรราวรรณ เขตสวนหลวง



 

รพ.บุษราคัมรับผู้ป่วยแล้ว 267 ราย 

ในส่วนของการดำเนินการรพ.บุษราคัม ตั้งแต่ 14 - 17 พ.ค. มีการรับผู้ป่วยแล้ว 275 ราย เป็นกลุ่มอาการสีเขียว 206 ราย สีเหลือง 61 ราย และสีแดงต้องส่งต่อ 8 ราย 

ศบค.

related