สหภาพแอฟริกา ซื้อวัคซีน เจแอนด์เจ เพิ่ม 400 ล้านโดส เพื่อป้องกันโควิด19

ดร.อาโยอาเด อะลาคคิจา (Ayoade Alakija)  ประธานร่วมของพันธมิตรการจัดส่งวัคซีนแห่งสหภาพแอฟริกา เผยว่า แอฟริกาเพิ่งมีคำสั่งซื้อวัคซีนโควิด19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันไป จำนวนกว่า 400 ล้านโดสไป เป็นผลมาจากความล่าช้าในการจัดส่งวัคซีนโครงการโคแว็กซ์ที่เกิดขึ้น คาดว่าอย่างน้อยน่าจะได้มา 240 ล้านโดสภายในปีนี้"

หลายประเทศในแอฟริกาพึ่งพาวัคซีนแอสตราเซนเนก้าจากโครงการโคแว็กซ์ โดยวัคซีนส่วนใหญ่มาจากสถาบันเซรั่มอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก เนื่องจากโควิด19 ระบาดระลอกที่สองถล่มอินเดีย ทำให้สถาบันเซรั่มอินเดีย ประกาศว่า พวกเขาไม่คาดว่าจะส่งออกวัคซีนไปประเทศอื่นได้อีกจนกว่าจะถึงสิ้นปีนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของเคนยา เปิดเผยว่า ว่าวัคซีนแอสตราเซนเนก้า ไม่น่าจะยังเป็น "วัคซีนทางเลือกสำหรับทวีปแอฟริกา" หลังจากความล่าช้าในการจัดส่งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เคนยาฉีดวัคซีนให้ประชากรได้น้อยกว่า 2%

ดร.อะลาคคิจา กล่าวว่า "แม้ว่าเราจะสั่งซื้อไปแล้ว ในขณะที่ประเทศร่ำรวย เช่น สหรัฐอเมริกา หรือ หราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศที่มีวัคซีนมากที่สุด ได้ฉีดวัคซีนให้แก่เด็กอายุ 12 ปี แต่เรายังมียายและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเรา พ่อ แม่ ลุง ป้า น้า อา ที่เป็นผู้สูงอายุและยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน"

"มันผิดศีลธรรม ไม่เกี่ยวกับวัคซีนแอสตราเซนเนก้า หรือ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แต่สิ่งที่เป็นอยู่ คือการจัดสรรวัคซีนโดยแบ่งแยกสีผิว" เธอ กล่าว

"ถ้าไม่รีบฉีดวัคซีนโดยเร็ว เราอาจมีโควิดกลายพันธุ์อื่นๆ เกิดขึ้นที่เรา และจะเป็นอันตรายต่อทั่วโลก คุณไม่สามารถแยกตัวเองออกไปได้ ไม่มีใครไม่เกี่ยวข้อง" เธอ กล่าว