svasdssvasds

สธ. เผย แนวโน้มการระบาดโควิดกทม.เริ่มทรงตัว คาดเดือนหน้าสถานการณ์ดีขึ้น

สธ. เผย แนวโน้มการระบาดโควิดกทม.เริ่มทรงตัว คาดเดือนหน้าสถานการณ์ดีขึ้น

กระทรวงสาธารณสุข เผย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นจากต่างจังหวัด ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทุกจังหวัดในประเทศไทย ส่วนแนวโน้มการแพร่ระบาด กทม. เริ่มทรงตัว คาดการณ์ 4-6 สัปดาห์ต่อจากนี้ แนวโน้มจะดีขึ้น หลังประชาชนได้รับวัคซีนมากขึ้นกว่าร้อยละ50

 ศูนย์แถลงข่าวติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระบุถึง ภาพรวมมีการกระจายของผู้ติดเชื้อในวันนี้ อยู่ในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้อยละ 59 ปริมณฑล ร้อยละ 23 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 18 โดย วันนี้ทุกจังหวัดมีการรายงานผู้ติดเชื้อทั่วประเทศไทย

 ซึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้มีการกระจายการแพร่โรคในพื้นที่ต่างๆคือ  ไปซื้อของข้างนอกและไปพบผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว โรงงานสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อบางแห่ง ได้มีการสั่งปิดทำให้คนงานบางส่วนกระจายออกไปยังพื้นที่ด้านนอก และที่พักอาศัยของคนงาน 

 ปัจจัยการแพร่ระบาดโรคในช่วงนี้ จะแตกต่างจากช่วง 3-4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยช่วงนั้นจะเป็นการติดเชื้อจากคนที่รู้จักกัน คนครอบครัว ในสถานประกอบการ แต่ปัจจุบันในพื้นที่ระบาด มีการระบาดค่อนข้างมาก การสอบสวนโรคในหลายกรณี ไม่พบแล้วว่าติดเชื้อจากใครเพราะฉะนั้นการอาศัยอยู่ในพื้นที่ระบาดเช่น ในกรุงเทพฯและปริมณฑล อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ เพราะเราไม่ทราบว่าคนที่อยู่ใกล้กันติดเชื้อหรือไม่

 สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด ประเทศไทยในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปฉีดไปได้เพียงร้อยละ 20  เท่านั้น เป็นเรื่องสำคัญที่ลูกหลานจะต้องพาผู้สูงอายุในครอบครัวไปรับวัคซีนให้ได้มากที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แนะ “เจ้าของหอพัก สถานประกอบการ” หากพบผู้ติดเชื้อโควิด ให้รีบแจ้ง จนท.สธ.

• กลุ่มเส้นด้าย นำรถเอ็กซเรย์เคลื่อนที่ มาตรวจปอดให้ผู้ติดเชื้อภายในชุมชน

• "หมอธีระ" วอน ศบค.ทบทวนมาตรการ หลังยอดติดเชื้อไทยสูงเป็นอันดับ 11 ของโลก

 ซึ่งภาพรวมการติดเชื้อในขณะนี้ มีการติดเชื้อค่อนข้างมาก และความน่ากังวล ในพื้นที่เสี่ยงระบาดสูง คือ ไม่รู้สามารถรู้ได้ว่าการออกไปข้างนอก ซื้อของ พบเจอบุคคลภายนอก ใครมีเชื้ออยู่หรือไม่ รวมถึงการป้องกันการระบาดในโรงงานสถานประกอบการ โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการ พนักงาน หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ สื่อสารให้โรงงานและชุมชนรอบข้างเข้าใจและปฏิบัติตามมาตรการ 

หากโรงงานไหนยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ให้ผู้ประกอบการศึกษาแนวทางการควบคุมโรค บับเบิลแอนด์ซีล จากทางสาธารณสุขจังหวัด เตรียมความพร้อมเตียงสนาม ห้องแยกกัก เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของพนักงาน 

หากโรงงานไหนพบผู้ติดเชื้อแล้ว เน้นไม่จำเป็นต้องปิดโรงงาน แต่ต้องป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ชุมชน ให้แยกกลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง แยกกลุ่มผู้ติดเชื้อจัดหาเตียงสนาม ห้องแยกกัก จัดระบบควบคุมกำกับการเดินทาง การกินข้าว การพูดคุย ให้ปลอดการติดเชื้อ และแพร่เชื้อมีการตรวจคัดกรอง 

เนื่องจากที่ผ่านมามีบทเรียน หากปิดโรงงาน พบว่าจะมีการแพร่เชื้อไปสู่ชุมชน และการกระจายออกนอกพื้นที่ 

สถานการณ์ตอนนี้ที่ พบผู้ติดเชื้อกว่า 1หมื่น รายต่อวัน มาตรการสำคัญตอนนี้ คือ งดเดินทางข้ามจังหวัด ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นเท่านั้น มาตรการทำงานที่บ้าน ให้ได้ 100% ซึ่งหากดูในมาตรการ ก็พบว่า มีความใกล้เคียงกับมาตรการของอู่ฮั่น บ้างในบางส่วน 

 

โดยสถานการณ์ตอนนี้ คาดว่าจะยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในส่วนของต่างจังหวัด ที่มีการรายงานพบผู้ติดเชื้อในครอบครัวและเดินทางกลับต่างจังหวัด 

  หากดูการระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานครตอนนี้ จะเพิ่มขึ้นไม่ค่อยเยอะแล้ว เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนไปค่อนข้างมากกว่าร้อยละ 50 โดยแนวโน้มจะเริ่มทรงตัว และแนวโน้มสถานการณ์จะดีขึ้นในอีก 4-6 สัปดาห์ข้างหน้า ในส่วนของต่างจังหวัดยังคงมีพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากต่อเนื่องในระยะนี้ 

จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนทุกคนคงต้องร่วมมือกันเพื่อไม่ให้เข้าสู่มาตรการเหมือนอู่ฮั่นโมเดล ที่ต้องปิดทุกรูปแบบ 

ส่วนปัญหาเตียง ต้องยอมรับว่า "วิกฤต" เนื่องจากที่ที่ผ่านมาขีดความสามารถในการรองรับด้านการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยมีค่อนข้างจำกัดอยู่แล้ว ไม่ได้สูงมากเหมือนในหลายประเทศ แถบฝั่งยุโรปหรือฝั่งอเมริกา  

ซึ่งการเพิ่มจำนวนเตียงให้มากขึ้น เหมือนที่หลายคนอยากให้มีเป็นไปได้ยาก เพราะ ขาดบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วย เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการ คือ การไม่ให้ผู้ป่วยที่มีอาการน้อยๆ เปลี่ยนไปเป็นผู้ป่วยสีเหลืองสีแดง ให้ได้มากที่สุด

related